เมื่อวันที่ 25 ก.พ. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 เขตหาเสียง ประกอบด้วย เขต 1 นายประศาสตร์ ทองปากน้ำ เขต 2 นายอรุณ สุภาพร และเขต 3 น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ ซึ่งมีนายอารยะ ชุมดวง อดีต ส.ส. สุโขทัย 6 สมัย มาร่วมด้วย
โดยมีชาวสุโขทัยต้อนรับอย่างอบอุ่น และมาขอถ่ายรูป พร้อมนำดอกไม้มามอบให้ จุดแรกได้เดินทางไปที่นมัสการพระมงคลพัฒนพิธาน เจ้าคณะอำเภอทุ่งเสลี่ยม ที่วัดพิพัฒน์มงคล(พระทองคำ)และเยี่ยมชมความสวยงามภายในวัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวศิลปะวัฒนธรรมล้านนาที่ขึ้นชื่อภายในอำเภอทุ่งเสลี่ยม และทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจ
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
จากนั้นได้เดินทางไปที่วัดโบสถ์ ต.บางเมืองขลัง อ.สวรรคโลก ร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารศรีวิชัยที่มีอายุเก่าแก่ และพรหมน้ำหอมที่ประตูมงคล เชื่อว่าเมื่อขอพรแล้วจะประสบความสำเร็จ โดยชาวบ้านอวยพรให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ขอให้ข้าวราคาสูงกว่าตันละ 1 หมื่นบาท อ้อยราคาสูงกว่าตันละ 1 พันบาท ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ตอบกลับว่าจะต้องทำให้พรรคเพื่อไทยชนะทุกเขตของสุโขทัย เพื่อมีคะแนนสู้กับ 250 ส.ว.ที่คณะรักษาความสงบเเห่งชาติเเต่งตั้งขึ้น และหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีตนจะกลับมาที่วัดนี้อีกครั้ง
ต่อมา คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทางไปสักการะศาลแม่ย่า ภายในเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และสักการะอนุเสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่อุทยานประวัติศาตร์เมืองเก่าสุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วงเย็นร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ที่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่ จ.สุโขทัย ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในภาคการเกษตร โดยเฉพาะที่ จ.สุโขทัย ซึ่งปลูกข้าวและยาสูบ ที่ผ่านมารัฐบาลปรับลดการรับซื้อใบยาสูบลง 48% แต่ไม่มีมาตรการรองรับทำให้ผลกระทบตกอยู่ที่เกษตรกร ปกติการปรับลดการรับซื้อ ราคาจะต้องเพิ่มขึ้น แต่กรณีของใบยาสูบ ราคากลับเท่าเดิม พรรคเพื่อไทยจึงอยากให้ทบทวนนโยบายยาสูบ โดยเฉพาะการนำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ เพราะถือว่าเป็นการผลักภาระให้กับเกษตรกรนำบุหรี่จากนอกประเทศมาแข่งขันกับบุหรี่ไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคมีนโยบายเรื่องข้าวที่เตรียมไว้แล้ว หลังจากนี้จะมีการแถลงเปิดตัวนโยบายภาคการเกษตร แต่เบื้องต้นจะทำให้ภาคการเกษตรของไทยมุ่งสู่การเป็นอาหารสุขภาพให้กับคนทั้งโลก โดยจะปรับเปลี่ยนการผลิตหน้าดิน มีกองทุนปรับหน้าดินมุ่งสู่ออแกนิคอินทรีย์ จะพักชำระหนี้ 3 ปีเพื่อให้เกษตรกรตั้งตัวได้ เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และมีนโยบายผลักดันราคาสินค้าการเกษตร แบบแม่นยำ โดยเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในลักษณะตันหรือเกวียนละ 5,000 บาท ไม่เกิน 15 เกวียน จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ 75,000 บาทต่อราย และหากเป็นเกษตรกรรายเล็ก มีผลผลิตไม่เกิน 7 เกวียน จะได้เงินช่วยเหลือ 36,000 บาท เพื่อเตรียมการพัฒนาการผลิตให้สินค้ามีคุณภาพ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมยืนยันว่าจะผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้ขึ้นอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ภายใน 6 เดือน นอกจากนี้จะมีการอบรมพัฒนาภาคการผลิตและหาตลาดจากต่างประเทศมารองรับ ขณะเดียวกันจะส่งเสริมกองทุนหมู่บ้านและวิสาหกิจชุมชนให้รับซื้อข้าวมาแปรรูปและขายในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ข้าวคุณภาพดีมาบริโภค
ที่มา ข่าวสดออนไลน์