พรรคสร้างอนาคตไทย-พรรคใหม่สี่กุมาร เปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการครั้งแรก ภายใต้สโลแกน “ไม่ขวาสุดขั้ว ไม่ซ้ายสุดโต่ง” เข็มมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ตรงกับมอตโต้ “ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศไทย”
จุดแข็งของพรรคสร้างอนาคตไทย นอกจากทีมเศรษฐกิจ ที่มี “อุตตม สาวนายน” และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตรัฐมนตรีขุนพลเศรษฐกิจในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ยังมี “เงาสมคิด” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทาบทับอยู่ข้างหลัง
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนากับ “สันติ กีระนันทน์” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ตัดสินใจลาออกจาก ส.ส.โดยไม่ลังเล กระโจนมาเป็น 1 ในผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย-ผู้ร่วมอุดมการณ์
“สันติ” หนึ่งใน “ขุนพลเศรษฐกิจ” เริ่มต้นฉายภาพการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่อดีต-ปัจจุบันและอนาคต หากพรรคสร้างอนาคตไทยเข้าไปร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ขณะนี้ประเทศกำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจเชิงซ้อนทุกมิติ
ระดับมหภาค โครงสร้างเศรษฐกิจไทยบิดเบี้ยว พึ่งพิงการส่งออกและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ต้องทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยมีความปลอดภัยระดับหนึ่ง ถ้าปัจจัยภายนอกติดขัด เศรษฐกิจไทยยังต้องอยู่รอดได้
“ปัญหาเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องการเติบโตเท่านั้น แต่เป็นปัญหาเชิงซ้อนเรื่องความเหลื่อมล้ำ กลุ่มคนข้างบนไม่มีปัญหา และยังมีความเติบโต แต่กลุ่มคนข้างล่าง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ 70-80% ของประเทศ จะไม่มีกิน”
เล่าประสบการณ์ที่เคยทำงานให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงสุดท้ายก่อนที่กลุ่มสี่กุมารจะยกทีมออกจากพรรคพลังประชารัฐ ว่า เกิดโควิด-19 รัฐบาลสั่ง shut down จึงมีเหตุจำเป็นที่รัฐต้องเยียวยา แต่หลังจากนั้น ไม่ใช่การเยียวยา กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ต้องไม่ใช่เพียงแค่การเยียวยา แต่ต้องเป็นการสร้างความสามารถในการหารายได้
“วันนี้ให้กินแต่ยาพารา แต่ไม่ได้ไปรักษาที่สาเหตุของโรค สาเหตุของโรคไม่ใช่สินค้าแพงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะหารายได้ไม่ได้ ต้องสร้างงาน ไม่ใช่เอาเงินไปแจกเฉย ๆ เซ็กเตอร์ท่องเที่ยวตกงานกันหมด ทำไมรัฐไม่เอางบประมาณไปจ้างและปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว งานจะเกิด productivity เกิด เตรียมพร้อมให้สถานที่ท่องเที่ยวฟื้นฟูกลับขึ้นมา อีก 5 ปี นักท่องเที่ยวกลับมา 20-30 ล้านคน เราจะสามารถสร้างการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงได้ เป็นการสร้างงาน สร้าง productivity ในอนาคต”
เขาย้ำว่า ถ้าหากพรรคสร้างอนาคตไทยทำ “จะไม่แจกเงินพร่ำเพรื่อ” และขยายความการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้ถึงกึ๋น โดยการ “สร้างรายได้”
ประการแรก ต้องเริ่มที่ผู้นำทางเศรษฐกิจต้องมีเป้าหมายชัดเจนก่อน ว่าจะทำอะไร ไม่ใช่แก้ปัญหาไปวัน ๆ คนละครึ่ง เฟส 4 ไม่ได้ทำให้หมูแพงถูกลง น้ำมันพืชต่อไปเห็นแน่ขวดละ 60 บาท ช่วยให้ประชาชนซื้อต่อไปได้เรื่อย ๆ หรือไม่
เขาแนะวิธีแก้ปัญหาหมูแพงว่า ระยะสั้น ต้องนำเข้า เพื่อลดความรุนแรงของ short trade supply ระยะกลาง-ยาว สนับสนุนให้ฟาร์มมาตรฐาน หน้าที่ของรัฐบาลต้อง subsidize ให้เกษตรกรรายเล็ก รายย่อย รวมถึงสินค้าเกษตรทุกชนิด
“หัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อไม่ได้ทำให้สินค้าแพง ของแพงถึงทำให้เงินเฟ้อ”
บนเวทีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พรรคสร้างอนาคตไทยชูเคล็ดลับเศรษฐกิจ ว่า รัฐต้องหาเงินได้-ใช้เงินเป็น
“สันติ” อธิบายว่า ความสามารถในการหารายได้ของรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้มีปัญหา งบประมาณรายจ่ายประจำปีเคยขึ้นไปถึง 3.3 ล้านล้านบาท ล่าสุดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ลดลงมาเหลือ 3.18 ล้านบาท
“ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแบบนี้ ต้องเสนองบประมาณขยายตัว สำนักงบประมาณตอบกลับมาว่า สำนักงบประมาณเสนองบประมาณขยายตัวแล้ว แต่ผู้มีอำนาจตัดสินใจไม่เอา”
“การจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลเพิ่มขึ้น ไม่ได้น่ากลัว ตราบที่นำมาสร้างความสามารถในการหารายได้ต่อไป บริษัทที่เติบโตได้ ไม่ใช่เติบโตเพราะเงินทุนของตัวเอง เป็นเพราะการกู้ แต่การกู้มาแล้วต้องใช้เป็น รัฐบาลก่อหนี้ไม่ได้น่ากลัว ตราบเท่าที่รัฐบาลใช้เงินกู้เพื่อสร้างศักยภาพ แต่ถ้าหาเงินมา พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้าน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน มาทำโครงการคนละครึ่ง เอามาแจก ทำไปก็หายหมด”
ส่วนการหารายได้แบบเบสิกที่สุดอย่างการเก็บภาษี เช่น transaction tax ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภาษีคริปโท สินทรัพย์ดิจิทัล ต้องกลับไปถามรัฐก่อนว่า มองเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ละประเภทอย่างไร สนับสนุน หรือไม่สนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุนก็เก็บภาษีไป ต้องเริ่มจาก policy
ขณะที่ภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้างที่รัฐบาลเก็บไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เขาชี้เป้าว่า อัตราไม่ต้องไปยุ่งมาก แต่สิ่งที่ต้องไปยุ่ง เช่น ที่ดินรัชดาฯปลูกมะนาว กลายเป็นที่ดินเกษตร ใช่หรือไม่ การเลี่ยงบาลีเหล่านี้ เพราะนิยามที่ดินทำการเกษตร เป็นนิยามที่มีช่องว่าง เห็นแล้วทำไมไม่แก้ไขช่องว่าง กระทบรายใหญ่หรือไม่
“ความสำเร็จในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นปัญหาฝังรากลึก คำถามคือ พยายามทำหรือไม่ เริ่มทำหรือไม่”
“พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้คิดเพียงเรื่องเศรษฐกิจแบบอีอีซี ที่เน้นการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ ต้องฐานรากด้วยไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างการเติบโต ทำให้ประเทศแข่งขันได้ กับเน้นฐานรากให้เกิดการกระจายรายได้จากข้างบนลงมาข้างล่างให้ได้”
“พรรคสร้างอนาคตไทยขายนโยบายให้ประชาชนเห็น และหวังว่าประชาชนจะซื้อนโยบายเหล่านี้ เราไม่ขายความแตกแยก เราไม่ขายความเกลียดชัง แต่เราขายการแก้ปัญหา เราเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณที่ดีที่จะเลือก”
แม้จะขายนโยบายดีอย่างไร ในทางการเมือง พรรคสร้างอนาคตไทยต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลหรืออย่างน้อยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จึงหวังโหวตเตอร์กลุ่มคนกลาง ๆ กว่าครึ่งประเทศ ที่มาเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย
“พวกที่เลือกข้าง เป็นคนเสียงดัง เป็นคนชอบตะโกน ส่วนคนที่เหลือ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รอ รอว่าใคร จะช่วยให้ความหวังของประเทศเป็นจริง เราหวังกับคนกลุ่มนี้”
“คนส่วนใหญ่ไม่โง่ แต่คนส่วนใหญ่ที่เชื่อบางช่วง บางขณะ เพราะว่ามีความหวัง แต่เมื่อผิดหวังแล้วมาเจออีกสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้สมหวังได้ เขาก็เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนวิธีคิด ย้ำว่า คนกลุ่มนี้ เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศแน่นอน”
“เราหวังว่าจะทำงาน เพื่อนำนโยบายไปทำให้เกิดเป็นจริง เราไม่เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่ใช่เราจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะถ้าประชาชนตัดสินใจเอา พล.อ.ประยุทธ์ แล้วในที่สุดต้องร่วมรัฐบาล เงื่อนไขสำคัญของเรา คือ นโยบายปากท้องพี่น้องประชาชนต้องเป็นอันดับ 1” สันติทิ้งท้าย