แอร์เอเชียจี้รัฐลดคุมเดินทาง กลางปีนักท่องเที่ยวไม่มา ธุรกิจถดถอยอีกรอบ

“ธรรศพลฐ์” แอร์เอเชีย วอนลดความยุ่งยากในการเดินทาง จี้รัฐประสานงานเพื่อนบ้าน คุยลดเอกสาร-ค่าตรวจโควิด เผยแม้ปรับองค์กร แต่ไม่ประมาท ชี้ กลางปีถ้านักท่องเที่ยวไม่มา อุตฯ ท่องเที่ยวถดถอยอีกรอบ เตรียมเปิดเส้นทางสิงคโปร์, เวียดนาม เร็ว ๆ นี้

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และ บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น เปิดเผยว่า โควิด-19 เป็นเสมือนฝันร้ายของธุรกิจการท่องเที่ยวไทย เมื่อปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ประเมินสถานการณ์การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวว่าจะทยอยกลับมา แต่จนถึงตอนนี้กลับพบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

โดยแม้ปัจจุบันบางประเทศจะเปิดให้เดินทางเข้า-ออกประเทศได้ แต่ยังมีกระบวนการที่ยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายที่สูง เช่น การเดินทางระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนเอง ในบางประเทศต้องมีการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR รวมแล้วถึงสามครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง

นายธรรศพลฐ์กล่าวว่า ตนอยากขอให้รัฐบาลกลุ่มอาเซียน และสมาคมการท่องเที่ยวในภูมิภาคพูดคุยประสานงานกัน เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายในการตรวจน้อยลง ลดจำนวนครั้งการตรวจ หรือเปลี่ยนจากการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็น ATK แทน รวมถึงต้องการให้ภาครัฐแต่ละประเทศพิจารณาเปิดพรมแดน ภายในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนนี้ เพราะปัจจุบันหลายประเทศรวมถึงไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสที่สูงแล้ว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักได้

“เราไม่อยากล็อกดาวน์อีกแล้ว และขอวิงวอนผู้ประกอบการว่า เมืองชวนแขกบ้านแขกเมืองมาแล้ว ก็อยากให้เปิดธุรกิจให้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอย่างแท้จริง” นายธรรศพลฐ์ กล่าว

สำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ นายธรรศพลฐ์มองว่า รัฐบาลทำได้ดีแล้ว แต่ก็อยากให้ภาครัฐออกมาตรการเพิ่มมากขึ้น รวดเร็วขึ้น เพราะพบว่าเมื่อภาครัฐไม่ออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวในประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด

อีกทั้งบางพื้นที่ยังมีมาตรการขอให้ตรวจหาเชื้อก่อนเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งอาจสร้างค่าใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น ทางออกคือควรค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรค ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อลง เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในทางอ้อม

นายธรรศพลฐ์กล่าวว่า แม้ก่อนหน้านี้ ไทยแอร์เอเชียมีการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้มีกระแสเงินเข้ามา แต่บริษัทจะไม่ประมาท เพราะถ้ามีการเปิดการท่องเที่ยวเดินได้ช้า บริษัทอาจจะเข้าภาวะเสี่ยงอีกครั้ง จึงอยากให้ทุกอย่างกลับมาได้โดยเร็วภายในเดือนมิถุนายนนี้

“อยากให้เปิดประเทศ หรือมีมาตรการอื่น ๆ ช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว เพราะถ้ากลางปีนี้นักท่องเที่ยวยังไม่มา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง และเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่สาหัสพอควร”

ส่วนประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวนั้น นายธรรศพลฐ์ระบุว่า เมื่อปี 2564 เคยประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวของปี 2565 ไว้ที่ 12-13 ล้านคน แต่จนถึงปัจจุบันแอร์เอเชียกลับมาเปิดเที่ยวบินต่างประเทศเพียงไม่กี่เส้นทางเท่านั้น ทำให้อาจต้องมีการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ รวมถึงจำนวนผู้โดยสารของแอร์เอเชียใหม่อีกครั้ง

ปัจจุบันสายการบินเปิดให้บริการเส้นทางต่างประเทศ คือ ดอนเมือง – พนมเปญ, ดอนเมือง – มัลดีฟส์ และในเดือนหน้าอาจกลับมาเปิดเส้นทางสิงคโปร์อีกครั้ง ตามด้วยเส้นทางประเทศเวียดนาม เช่น ฮานอย โฮจิมินห์

อย่างไรก็ตาม ยังพอมีความหวังว่าหลังการระบาดจบลง หรือทุกประเทศเปิดพรมแดนอย่างเต็มที่ ภาคการท่องเที่ยวไทยจะหลับสู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2019 เร็วสุดอาจในระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังต้องการเดินทางเข้ามาประเทศไทยอยู่เป็นจำนวนมาก

“ถ้ารัฐบาลไม่สามารถอุดหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ ก็จำเป็นต้องให้ผู้ประกอบการหารายได้เอง นั่นคือ การเปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา โดยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขั้นตอนต่าง ๆ เอกสารได้ดีที่สุด แล้วเราถึงจะประกอบการได้” นายธรรศพลฐ์กล่าวทิ้งท้าย