ไม่ใช่คู่แข่งแต่คือพันธมิตร “ศุภาลัย Big Brother” บ่มเพาะรายเล็ก

ศุภาลัย

เพราะดีเวลอปเปอร์รายเล็ก “โนว์ฮู” ก็เลยได้ “โนว์ฮาว”

โครงการดี ๆ ที่ต้องบอกต่อ เปิดตำราความสำเร็จถ่ายทอดวิทยายุทธ์แก่ developer รายเล็ก ผ่านโครงการ Big Brother ต่อเนื่องปีที่ 5 เจ้าภาพจอมยุทธ์ คือ “บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)”

รับบทพี่เลี้ยงต่อเนื่องปีที่ 5

สำหรับปี 2565 โครงการ Big Brother Season 6 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว ภายใต้มิชชั่นที่ต้องการยกระดับและพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก-รายใหญ่ ให้สามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในทุกความต้องการและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศอย่างแท้จริง

คีย์แมนศุภาลัย “กิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล” รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายงานก่อสร้างอาคารสูง กล่าวว่า ศุภาลัยเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาฯเพียงรายเดียวที่เข้าร่วมและให้การสนับสนุนโครงการ “Big Brother” จัดโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ในบทบาท “พี่เลี้ยง” ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มาแล้วถึง 8 ราย

โดยปี 2564 ศุภาลัยได้ถ่ายทอดกลยุทธ์ธุรกิจให้กับ “บริษัท ยัวโฮม เอสเตท จำกัด” สำหรับปี 2565 นี้ ตอบรับเป็นโค้ชให้กับ 2 ดีเวลอปเปอร์ดาวรุ่ง “บริษัท บี มอร์ เอสเตท จำกัด” กับ “บริษัท จุพาชัย พัฒนา จำกัด” โดยทั้ง 3 รายดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาฯในระดับภูมิภาค

ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ทั้ง 3 บริษัทเป็นคู่แข่งโดยตรงในสนามธุรกิจอสังหาฯ แต่ในสายตาของ “ศุภาลัย” กลับมองเห็นว่าเราได้พันธมิตรธุรกิจในภาคท้องถิ่นมาเพิ่ม ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมอง ได้เรียนรู้วิธีการบริหารงานหลากหลายรูปแบบ

ในขณะที่ศุภาลัยเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ทำงานด้วยระบบการทำงานอย่างหนึ่ง หากเป็นบริษัทขนาดเล็กจะทำให้เห็นวิธีคิด มุมมอง อุปสรรค วิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างออกไป ก่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาซึ่งกันและกัน

ภายใต้โครงการ Big Brother ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาภาคอสังหาฯของไทย เพราะเมื่อมีผู้พัฒนาอสังหาฯที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นในวงการ เท่ากับเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคโดยตรง

ศุภาลัย

เฉกเช่นเดียวกันกับตลอด 33 ปีที่ผ่านมา ศุภาลัยได้มุ่งมั่นพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีจากความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ยึดถือมาโดยตลอด

“เพราะเราเข้าใจดีว่าที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมากของครอบครัว หรือคนคนหนึ่ง การทำงานในภาคส่วนนี้จึงต้องคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของผู้อยู่อาศัยเสมอ การเข้าร่วมโครงการ Big Brother นับว่าเป็นการร่วมมือกันเพื่อสร้างดี ให้ธุรกิจอสังหาฯ ทั้งผู้พัฒนาและลูกค้าในภาพรวม” คำกล่าวของ “กิตติพงษ์”

มีแบบแผน-แข็งแกร่ง-โตยั่งยืน

ผู้ฝึกวิทยายุทธ์ “เสาวลักษณ์ นาคภัทระพงศ์-จิณห์จุฑา ภูวเดชนิกุล” กรรมการผู้จัดการ บี มอร์ เอสเตท เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเข้าพัฒนาโครงการ จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าแล้วมากกว่า 200 หลัง เมื่อได้ทราบว่า ศุภาลัยเข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยง Big Brother จึงไม่ลังเลใจในการเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากศุภาลัยเป็นบริษัทต้นแบบในการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ

ศุภาลัย

หากต้องการเติบโตในอนาคตอย่างมีแบบแผนเป็นระบบและยั่งยืน ก็อยากได้คำแนะนำในการทำงานจากมืออาชีพที่คร่ำหวอดในสนามอสังหาฯ มานานกว่า 30 ปี

หลังจากเข้าร่วมโครงการ ทำให้มุมมองการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไป เพราะได้เห็นภาพรวมอสังหาฯที่ใหญ่ขึ้น เมื่อมีข้อสงสัยก็ได้รับคำตอบและคำแนะนำจากศุภาลัยอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้แนวคิดในการทำงานและแบบแผนในการทำธุรกิจ ซึ่งจะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริษัทเพื่อให้เกิดการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมายต้องการมีผลประกอบการโดดเด่นเหมือนกับบริษัทพี่เลี้ยงศุภาลัย

อีกราย “ดาราวรรณ โพธิครูประเสริฐ” ผู้บริหารโครงการสุขอาศัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การพัฒนาโครงการสุขอาศัยในช่วงแรกมีปัญหาเรื่องการก่อสร้าง ดีลกับผู้รับเหมาในพื้นที่ยังไม่ลงตัว จึงนำโจทย์นี้ปรึกษากับศุภาลัย ซึ่งเป็นบริษัทพี่เลี้ยงและลงทุนพัฒนาโครงการในสุราษฎร์ฯอย่างยาวนาน

ทำให้ได้รับคำแนะนำที่สามารถนำไปปรับกลยุทธ์ ปรับแผนก่อสร้าง ได้ไอเดียบริหารงานด้านการตลาดและฝ่ายขาย ชนิดที่เรียกว่า deep in detail ทั้งการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ได้มองเห็นลักษณะการทำงานของพี่ใหญ่ในวงการอสังหาฯ มีการสังเกตจดจำและนำมาปรับใช้กับการทำงานของโครงการของตนเองต่อไป

ทั้งนี้ ศุภาลัยยึดมั่นแนวคิดที่ว่า การขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯไทยไม่สามารถเติบโตเพียงคนเดียวได้ ทุกภาคส่วนต้องพัฒนาไปพร้อมกัน จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแบ่งปันความรู้และข้อมูลเชิงลึกด้านอสังหาฯ ให้กับ “บริษัทน้อง ๆ” ผ่านโครงการ Big Brother จะก่อให้เกิดการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย และยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ศุภาลัย