เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยักษ์อสังหาริมทรัพย์อีกรายของวงการ “เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ของการก่อตั้งองค์กรในปี 2567
ภายใต้การนำของ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ประกาศวิสัยทัศน์ธุรกิจปีนี้ ธีมธุรกิจ SC the Evolution “สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย” ตั้งเป้าสร้างยอดขายนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จำนวน 28,000 ล้านบาท
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อไอโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกหาข้อสรุป
วิสัยทัศน์ภาพใหญ่ ตั้งเป้ากวาดรายได้ระยะ 5 ปี (2567-2571) รวมกันไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 30,000 ล้านบาท มาจากการต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจหลากหลาย ทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม คลังสินค้า ออฟฟิศบิลดิ้ง
3 ทศวรรษที่เติบโตต่อเนื่อง
โดย “ณัฐพงศ์” เปิดประเด็นด้วยการย้อนเวลา 3 ทศวรรษเป็น 3 ยุคของบริษัท ดังนี้
10 ปีแรกของบริษัท (2004-2013) ยุคแห่งจุดเริ่มต้น-The activation เอสซีเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำธุรกิจอาคารสำนักงาน-บ้านจัดสรร รายได้ปีแรก 700 ล้านบาท จบทศวรรษที่ 1 มีรายได้รวม 13,000 ล้านบาท เติบโต 18.5 เท่า
ทศวรรษที่ 2 (2014-2023) ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง-The Re-Invention มีการปรับเปลี่ยนภายในบริษัท อาทิ ปรับ culture เปลี่ยนวิสัยทัศน์ ปรับ positioning ธุรกิจจากจุดโฟกัสเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมมาสู่การเจาะตลาดทุกระดับราคา อีกทั้งยังผ่านมาหลายวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง ภัยธรรมชาติ และโรคระบาด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้ SC ผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่ง
บรรทัดสุดท้ายของยอดขายในช่วงทศวรรษที่ 2 จบสวยด้วยตัวเลข 27,945 ล้านบาท สร้างสถิตินิวไฮเมื่อเทียบกับปี 2565
รอบล่าสุด สู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งวางรากฐานตั้งแต่ปีนี้ต่อเนื่องไปอีก 10 ปีหน้า (2024-2033) กับวิสัยทัศน์นำพาองค์กรสู่ยุคแห่งวิวัฒนาการ-SC The Evolution The Evolution ท่ามกลางปัจจัยท้าทายรอบด้าน สถานการณ์โควิดที่มีผลกระทบกับ 7,000 ล้านคนในโลกทั้งใบ สงคราม (รัสเซีย-ยูเครน, อิสราเอล-ฮามาส) จากทวีปหนึ่งมีผลกระทบถึงอีกทวีปหนึ่ง
นำมาสู่ข้อตระหนักรู้ที่ว่า บริษัทหนึ่งไม่สามารถเติบโตคนเดียวได้ มองแต่กำไรตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่บริษัทหนึ่งจะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ต้องเติบโตไปกับคนรอบข้าง ดังนั้น SC ในยุคทศวรรษที่ 3 จะวิวัฒน์ตัวเองให้เติบโตพร้อมผู้คนและสิ่งแวดล้อม ลูกค้าและพนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปพร้อม ๆ กัน และผลกำไรไม่ได้กินข้าวหม้อเดียวอีกต่อไป หากแต่ต้องมาจากหลากหลายธุรกิจ
“เปรียบเทียบกับต้นไม้ใหญ่ ยุคที่ 2 Re-Invention ก็เหมือนเราเติบโตจากหนอนกลายเป็นผีเสื้อ ยุคที่ 3 เราจะโตแบบ Evolution องค์กรมีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับทุกวิกฤตที่จะเกิดขึ้น การเติบโตมาจากหลากหลายธุรกิจแผ่ขยายไปมากมาย สร้างคุณค่าให้คนและสิ่งแวดล้อม”
สู่ยุคมหาศาล-มั่นคง-สมดุล
สำหรับภาพ 10 ปี SC Evolution สะท้อนออกมาผ่านคำนิยาม 3 คำ “มหาศาล-มั่นคง-สมดุล” ดังนี้
เริ่มจากคำนิยามแรก “มหาศาล” มาจากหลักคิดที่ว่าองค์กรจะสร้างคุณค่าให้กับคนจำนวนมากได้ ขนาดธุรกิจต้องใหญ่พอ นำมาสู่การประกาศแผนที่จับต้องได้ 5 ปี (2024-2028) มีรายได้รวมมากกว่า 150,000 ล้านบาท
ถัดมา “มั่นคง” นิยามจากองค์กรจะต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเลือกลงทุนอย่างเหมาะสม คีย์เวิร์ดอยู่ที่หนี้ต้องต่ำด้วย โดยกำหนดหนี้สินต่อทุนหรือ D/E ไม่ให้เกิน 1.5 เท่า
จบด้วย “สมดุล” จุดเน้นอยู่ที่ผลกำไร นอกจากพอร์ตรายได้หลักสินค้าที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม นับเป็นเครื่องยนต์สร้างรายได้ที่ 1 หรือ Engine 1 แล้ว เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา SC มีการจุดประกายปั้นพอร์ตรายได้รีเคอริ่งให้เป็น Engine ที่ 2 จนกระทั่ง ณ ปัจจุบัน รายได้รีเคอริ่งมีสัดส่วน 16% แน่นอนว่าภายในแผน 5 ปี สัดส่วนจะต้องเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 26%
“วิสัยทัศน์ มหาศาล-มั่นคง-สมดุล เรามั่นใจว่าจะสร้างรายได้ต่อเนื่องเกินปีละ 30,000 ล้านบาท คู่ขนานกับทำกำไรสุทธิเติบโตสมดุล จากความหลากหลายของกำไรที่มาจากหลากหลายธุรกิจ”
เดินหน้าความสำเร็จบ้าน-คอนโด
ไฮไลต์แผนธุรกิจปี 2567 ข้อมูลรัว ๆ ประกอบด้วย 1.ตั้งเป้ายอดขายทำสถิตินิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จำนวน 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านแนวราบ 65% แนวสูงหรือคอนโดฯ 35%
2.ตั้งเป้ามีรายได้รวม 26,500 ล้านบาท จากธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจที่อยู่อาศัย (Engine 1) และธุรกิจสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอหรือรีเคอริ่งอินคัม (Engine 2)
3.วางเป้าวงเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน
4.สถิติพอร์ตโครงการสะสมรวมทุกธุรกิจมากถึง 103 โครงการ ประกอบด้วย Engine 1-ธุรกิจที่อยู่อาศัย ณ ปี 2567 มีทั้งสิ้น 86 โครงการ มูลค่ารวม 91,000 ล้านบาท
5.ตั้งเป้าเปิดตัว 17 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 25,000 ล้านบาท ไฮไลต์มีแบรนด์ใหม่ “Connoisseur-คอนนาเซอร์” ราคาเริ่มต้น 80 ล้านบาท และบ้านไลฟ์สไตล์เฉพาะ #SCบ้านIntrovert และ #SCบ้านExtrovert ที่เหลือเป็นคอนโดฯ 2 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Reference
นอกจากนี้ SC พร้อมส่งมอบนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีติดตามดูแลความปลอดภัยด้วยระบบ Command Centre และ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ผ่าน RueJai Intelligence และยกระดับประสบการณ์ด้วยกิจกรรมที่คัดสรรและออกแบบมาพิเศษผ่าน utility token Morning Coin ที่พร้อมเปิดตัวแน่นอนภายในกลางปี 2567 นี้
รีเคอริ่ง-เสาหลักค้ำรายได้
Engine 2-ธุรกิจรีเคอริ่งอินคัม แตกแขนงลงทุน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.สำนักงานให้เช่าหรือออฟฟิศบิลดิ้ง มี 6 อาคารด้วยกัน พื้นที่เช่ารวม 120,000 ตารางเมตร
2.โรงแรม รวมห้องพัก 545 keys จาก 3 โครงการ โดยเปิดให้บริการแล้วแบรนด์ “YANH ราชวัตร” จำนวน 78 keys เตรียมทยอยเปิดปลายปีนี้แบรนด์ Kromo (ครอโม) ทำเลสุขุมวิท 29 บริหารโดย Curio Collection by Hilton 306 keys และวางแผนเปิดบริการต้นปี 2568 ทำเลพัทยา 161 keys
3.คลังสินค้า 4 โครงการ พื้นที่เช่ารวม 160,000 ตารางเมตร โดยแห่งแรกเปิดดำเนินการแล้วที่จังหวัดนครสววรค์ พื้นที่เช่า 16,000 ตารางเมตร อยู่ในคิวรอเปิดบริการปีนี้และปีหน้าอีก 144,000 ตารางเมตร ใน 3 ทำเลที่ บางนา กม.20, บางนา กม.22 และแหลมฉบัง รวมทั้งร่วมลงทุนกับสตอเรจ เอเชีย บุกตลาด Self Storage ภายใต้แบรนด์ i-Store
4.พอร์ตรีเคอริ่งในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา มีห้องพักรวม 78 ห้อง ใน 4 ทำเลใจกลางบอสตัน
วิสัยทัศน์สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือ ESG ภายใต้ภารกิจ #SCeroMission ดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการออกแบบ สร้าง ใช้ ทิ้ง จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 25% ในปี 2573
ขายช้า-ทุนตึง-เหลื่อมล้ำ
ภาพรวมปีนี้ วงการอสังหาฯ เผชิญ 3 ความท้าทายจาก “ขายช้า-ทุนตึง-เหลื่อมล้ำ” กล่าวคือ ขายช้าเพราะมีแรงกดดันจากภาวะ 3 สูง 1 ต่ำ (หนี้สูง ต้นทุนสูง ดอกเบี้ยสูง) กับ 1 ต่ำคือเศรษฐกิจตกต่ำ นำมาสู่ภาวะทุนตึงจากการระมัดระวังตัวของธนาคาร-นักลงทุน-คู่ค้า-ลูกค้า
ขณะที่ฟากผู้ประกอบการด้วยกันเกิดเป็นความเหลื่อมล้ำในการประกอบธุรกิจ เป็นยุคที่ปลาใหญ่กว่ากินปลาใหญ่ เพราะ “ปลาใหญ่กว่า” สามารถเข้าถึงทรัพยากรทางธุรกิจ ทั้งแผนงาน-เงิน-คน ได้เร็วกว่าและมากกว่า “ปลาใหญ่ธรรมดา”
นำมาสู่การรับมือแบบดาวกระจายด้วย 8 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย 1.เพิ่มความหลากหลายแหล่งทุน สินค้า และธุรกิจ 2.ลงทุนเหมาะสม 3.ดำเนินธุรกิจรอบคอบ 4.จัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ 5.รักษามาตรฐานคุณภาพสูง 6.ประสานนวัตกรรมกับสินค้าและบริการ 7.ปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดของผู้คนในองค์กร และ 8.ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม
“SC เป็นหนึ่งในปลาใหญ่กว่า ทศวรรษที่ 3 ของเรามุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคุณค่าสู่คน สู่โลก และเติบโตด้วยธุรกิจหลากหลาย เป้าหมาย 5 ปีเราจะแข็งแกร่งด้วยคอนเซ็ปต์มหาศาล-มั่นคง-สมดุล ดัชนีชี้วัดในปีนี้ เราตั้งเป้ายอดขาย 28,000 ล้านบาท ทำสถิตินิวไฮติดต่อกันเป็นปีที่ 5” คำกล่าวของ CEO ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์
