อสังหาริมทรัพย์

ครึ่งปีแรก”บ้าน 100 ล้าน”สะพัด ลูกค้าซื้อเงินสด 3 ค่ายแข่งชิงดำทุกมุมเมือง

ตลาดบ้าน 100 ล้านแข่งเดือด 6 บิ๊กแบรนด์แข่งเปิดขายคลุมโซนพระราม 2-ปิ่นเกล้า-บางนา-พัฒนาการ “โกลด์” ชูจุดขายแวลู ออฟ มันนี่ ผุดบ้านมาสเตอร์พีซ 120 ล้าน แบรนด์อัลพิน่า ปักหมุดทำเลปิ่นเกล้า “แสนสิริ” ฟอร์มใหญ่เปิดแฟลกชิปลักเซอรี่โปรเจ็กต์ที่ 4 แบรนด์บ้านแสนสิริ พัฒนาการ เริ่ม 65-240 ล้าน ลูกค้าสิริไพออริตี้แห่ช็อป 12 หลัง “ชาญอิสสระ” ต่อจิ๊กซอว์แบรนด์บ้านอิสสระ เปิดควบ 2 ทำเล ย่านพระราม 9-บางนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดบ้านระดับลักเซอรี่ ราคาเริ่มต้นหลังละ 40 ล้านบาท เป็นเซ็กเมนต์ที่มีการแข่งขันสูง ล่าสุดช่วงครึ่งปีแรกมีบิ๊กแบรนด์ 3 ราย เปิดตัวโครงการใหม่ ราคาสูงสุดหลังละ 240 ล้านบาท โดยทางบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่าแนวโน้มปี 2561 ตลาดบ้านหรูราคาเกิน 40 ล้านบาท คาดว่ามีการแข่งขันเปิดตัวของผู้ประกอบการรวมกันมูลค่า 15,000 ล้านบาท

6 บริษัทแข่งดักลูกค้าไฮโซ

ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดบ้านราคา 100 ล้านบาท พบว่ามีผู้ประกอบการหลักแข่งขันในตลาด 6 รายด้วยกัน ประกอบด้วย บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน, บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.แสนสิริ, บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ และ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

โดยแต่ละแปลงเริ่มต้นบนที่ดินขนาด 213-351 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยตัวบ้าน 661-850 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 5-7 ห้องนอน 6-9 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3-10 คัน ราคาอยู่ระหว่าง 90-146 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่ายแสนสิริเป็นเจ้าของสถิตินิวไฮเปิดขายบ้านหรูราคาสูงสุดในตลาดอยู่ที่หลังละ 240 ล้านบาท โดยเป็นแบบบ้านแสนสิริ 9 ในโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ บนที่ดิน 560 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 941 ตารางเมตร มี 6 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 6+4 คัน

โกลด์ชู “แวลู ออฟ มันนี่”

นายวิรัชต์ มั่นเจริญพร กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากควบรวมกิจการกับบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด โกลด์ได้รีโมเดลแผนธุรกิจโครงการบ้านหรูเดอะแกรนด์ ปิ่นเกล้า ใหม่ โดยปรับจากสไตล์โมเดิร์นมาเป็นคฤหาสน์สไตล์สแปนิช คอร์ตยาร์ด พูลวิลล่า เนื้อที่รวม 190 ไร่ 344 หลัง มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท

โดยแบ่งพัฒนา 2 แบรนด์ด้วยกัน คือ เดอ ไพน์ บ้านพรีเมี่ยมราคา 15-25 ล้านบาท กับอัลพิน่า ราคา 25-120 ล้านบาท โดยบ้านสแปนิชมีให้เลือก 3 แบบบ้าน ได้แก่ พาลาซิโอ เดอ ลา ริเบอร์ร่า พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ, พาลาซิโอ เดอ ลา แมกตาเลน่า พื้นที่ใช้สอย 560 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และพาลาซิโอ เดอ คาลอส พื้นที่ใช้สอย 668 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ

ล่าสุด โกลด์ดีไซน์บ้านลักเซอรี่ต้องการให้เป็นมาสเตอร์พีซโดยมีเพียงหลังเดียวในโครงการ แบบบ้านพาลาซิโอ เดอ ซาน เตลโม ตั้งชื่อตามพระราชวังโบราณของสเปน บนที่ดิน 350 ตารางวา ฟังก์ชั่น 5 ห้องนอนใหญ่ 6 ห้องน้ำ จอดรถ 4 คัน พร้อมสระว่ายน้ำกลางบ้านสามารถเทกวิวได้ทุกมุมทั้งชั้นบน-ชั้นล่าง เพดานสูง 5.5 เมตร ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ Amani Roca โทนสีพิเศษ ราคาบ้านพร้อมตกแต่ง 120 ล้านบาท

“จุดขายของเราลูกค้าเปรียบเทียบแล้วจะรู้ถึงคอนเซ็ปต์แวลู ออฟ มันนี่ ฟังก์ชั่นเราชนะขาด ในขณะที่ความคุ้มค่าซื้อบ้าน 280-300 ตารางวา ได้สระว่ายน้ำไซซ์ 5×12 เมตร เจาะกลุ่มลูกค้าประสบความสำเร็จอายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นคนในพื้นที่ตั้งแต่พุทธมณฑลสาย 4-7 ไปถึงนครปฐม และกลุ่มทำงานในย่านซีบีดี ตั้งแต่เขตป้อมปราบฯ พระนคร สัมพันธวงศ์ ยานนาวา ธนบุรี บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และขายกลุ่มเยาวราชได้ด้วย เป็นกลุ่มผู้มีรายได้เดือนละ 5 ล้านบาท หรือมีเงินออม 10 ล้านบาทขึ้นไป”

แสนสิริเปิดขาย 240 ล้าน

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโครงการแฟลกชิปลำดับที่ 4 แบรนด์ “บ้านแสนสิริ พัฒนาการ” ทำเลพัฒนาการ 30 มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท จำนวน 36 ยูนิต ราคา 65-240 ล้านบาทรายละเอียด ที่ดินเริ่มต้น 150-560 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 494-941 ตารางเมตร สร้างบนที่ดินรวม 37 ไร่ เปิดพรีเซล

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ล่าสุดมียอดขายแล้ว 12 ยูนิต มูลค่า 40% ของมูลค่าโครงการ หรือ 1,280 ล้านบาท

นายอภิชาติกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ แสนสิริเปิดโครงการแฟลกชิปอันดับที่ 1 เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ “บ้านไข่มุก” หัวหิน เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ราคาเปิดขายยูนิตละ 7 ล้านบาท ปัจจุบันขยับเป็น 80 ล้านบาท อันดับ 2 “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” ราคาเปิดขายยูนิตละ 27 ล้านบาท ปัจจุบันขยับเป็น 50 ล้านบาท อันดับ 3 “98 ไวร์เลส” ทำเลถนนวิทยุ เปิดขายด้วยราคาเฉลี่ย 5.5 แสนบาท/ตารางเมตร ปัจจุบันราคาเฉลี่ยขยับเป็น 6.5 แสนบาท/ตารางเมตร

ลูกค้าเป๋าหนัก “สิริไพออริตี้”

ล่าสุด “บ้านแสนสิริ พัฒนาการ” ทำเลซอยพัฒนาการ 30 จึงเป็นโครงการแฟลกชิปอันดับที่ 4 ซึ่งประเมินจากประสบการณ์ 3 โครงการที่ผ่านมา ทำให้มีโอกาสในการปรับราคาขึ้นได้ในอนาคต เนื่องจากศักยภาพทำเลซอยพัฒนาการ 30 อยู่ใจกลางเส้นทางคมนาคมสายหลัก ราคาที่ดินมีอัตราการเติบโตสูง โดยราคาประเมินของกรมธนารักษ์รอบปัจจุบัน (ปี 2559-2562) ปรับขึ้น 7-16% จากราคาประเมินรอบ 4 ปี (2555-2558)

นางสาววิลาสิณี เดชอมรธัญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมียอดขาย 12 ยูนิต โดยแต่ละหลังใช้เวลาก่อสร้างและตกแต่ง 1 ปี คาดว่าจะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้จำนวน 8 ยูนิต

“ทำเลพัฒนาการ 30 ถือเป็นจุดขายเพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ในขณะที่ยุค 30 ปีที่แล้วมีหมู่บ้านปัญญา ทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นย่านอยู่อาศัยชั้นดี กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ซื้อระดับบน หรือ high net worth individual โดยยอดขาย 12 ยูนิตแรกมาจากลูกค้าสิริไพออริตี้ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของแสนสิริ มีพฤติกรรมการซื้อโครงการที่อยู่อาศัยราคายูนิตละ 80 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทตั้งเป้าปิดการขายอีก 24 ยูนิตที่เหลือในโครงการภายในสิ้นปี 2562” นางสาววิลาสิณีกล่าว

ชาญอิสสระบุกทำเลบางนา

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดบ้านเดี่ยวลักเซอรี่มีการแข่งขันสูง โดยชาญอิสสระเปิดตัวโครงการล่าสุด แบรนด์ “บ้านอิสสระ บางนา” บนที่ดิน 24 ไร่ 44 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 100-238 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 380-697 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 38-94 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดยมีบริษัท สถาปนิก 49 เป็นผู้รับผิดชอบออกแบบโครงการ

จุดเด่นเริ่มตั้งแต่ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ภายในโครงการเน้นการพักอาศัยในบรรยากาศธรรมชาติล้อมบ้าน ทุกหลังมีการติดตั้ง solar cell พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของบ้าน มีระบบสมาร์ทออโตเมชั่น อาทิ ระบบ access control, CCTV, ระบบควบคุมการเปิดปิดไฟ แอร์ ประตูรั้วผ่านมือถือ พื้นที่ส่วนกลางมีคลับเฮาส์ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ฟิตเนส โซน amphitheater ลู่วิ่งรอบหมู่บ้าน หรือ jogging track รอบโครงการยาวกว่า 800 เมตร ส่วนฟังก์ชั่นในบ้าน อาทิ ครัวไทย ครัวแพนทรี่ Bulthaup นำเข้าจากประเทศเยอรมนี สำหรับบ้านหลังใหญ่มีการติดตั้งลิฟต์สำหรับแบบบ้าน ABELIA และ BELLIS รวมทั้งมีบริการคอนเซียร์จด้านต่าง ๆ เช่น บริการโฮมแคร์ช่วยดูแลและบำรุงรักษาภายและภายนอกบ้าน, บริการด้านสุขภาพ, บริการด้านการจัดเลี้ยง และบริการผู้ช่วยส่วนตัว จึงมั่นใจว่าจะมีผลตอบรับที่ดีเหมือนกับที่บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดขายบ้านอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9 มาแล้ว