ทอท.แจงยิบ พบผู้ติดเชื้อแน่น “สุวรรณภูมิ” ยันทำตามมาตรการคุมโรค

ทอท.แจงยิบ ปมพบผู้ติดเชื้อแน่น “สุวรรณภูมิ” ยันทำตามมาตรการคุมโรค

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายบำรุงรักษา) รักษาการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า จากที่มีรายงานข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่ของ ทสภ. จำนวนมากนั้น

ยันทำตามมาตรการควบคุมโรค

ในกรณีนี้ขอชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ขึ้น ทสภ.ได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 ตามเกณฑ์ที่ ทอท.กำหนดทั้งในส่วนการดูแลบุคลากร การดูแลสถานที่การดำเนินการตรวจเชิงรุก (Active Case Finding) ตลอดจนการให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข 

ทั้งนี้ ในส่วนการดูแลบุคลากรนั้น ทอท.ได้กำหนดแนวทางการดูแลที่ชัดเจน ดังนี้

1.การดูแลพนักงานและลูกจ้าง

1.1 พนักงานและลูกจ้าง ทอท. ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันว่าพบเชื้อ ทอท.ช่วยประสานหาสถานพยาบาลหรือ Hospitel เพื่อนำตัวเข้ารับการรักษา โดยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ตามสิทธิ์ ซึ่งนับตั้งแต่มีผู้ป่วยยืนยัน พนักงานและลูกจ้างทุกคนได้เข้ารับการรักษาทั้งหมด ไม่มีตกค้างในสถานที่พักแต่อย่างใด

1.2 พนักงานและลูกจ้าง ทอท. ที่ฝ่ายการแพทย์ ทอท.ประเมินแล้วเข้าเกณฑ์เสี่ยงสูงตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ทอท. จะมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวกักตัว (Work From Home) เป็นเวลา 14 วัน พร้อมให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง แต่ด้วยปัจจุบันในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีผู้ป่วยและผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อในปริมาณที่สูงมาก เกินขีดความสามารถของสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่มี ทอท.จึงไม่สามารถจัดหาสถานพยาบาลเป็นการเฉพาะให้พนักงานและลูกจ้างได้ 

ในการนี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ ทอท.ได้อนุมัติให้พนักงานและลูกจ้างที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ตามสิทธิ์

2. การตรวจหาเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding)

นับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. 64 ทสภ.ได้ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อบริเวณเขตปลอดอากร (Customs Free Zone) และในพื้นที่อาคารผู้โดยสาร ทสภ. โดย ทสภ.ได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลบางพลี และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุก เพื่อค้นหาผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

3.ด้านอาคารสถานที่ 

ทอท.ได้กำหนดมาตรการและแนวทางการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในสถานที่ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยหากตรวจพบสถานที่ใดก็ตามของ ทสภ. ที่ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 

จะดำเนินการปิดสถานที่ดังกล่าวนั้นเป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ ขอให้มั่นใจได้ว่าทุกสถานที่ของ ทสภ. เป็นสถานที่ที่ได้รับการดูแลตามมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มงวด โดยปัจจุบันทุกสถานที่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ 

ปัดไม่ได้ออกหนังสือคุมเข้ม

4.กรณีที่มีการรายงานข่าวว่า ทอท.ได้ออกประกาศตามหนังสือที่ ศก 143 /2564 ลงวันที่ 9 ก.ค. 64 ขอความร่วมมือผู้ปฏิบัติงาน ณ ทสภ. ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยเคร่งครัดขั้นสูงสุดนั้น ไม่ได้เป็นหนังสือที่ออกโดย ทอท. แต่ออกโดยหน่วยงานที่ปฏิบัติงานใน ทสภ. เพื่อประชาสัมพันธ์ให้พนักงานของตนดำเนินตามมาตรการที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและการให้บริการ  

นายวิจิตต์กล่าวในตอนท้ายว่า ทสภ. โดยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ ทอท. และฝ่ายบริหาร ได้มีความห่วงใยต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของพนักงานและลูกจ้าง ทอท.ทุกคน และ ทอท.ได้อนุมัติให้พนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานจากบ้าน (Work From Home) ในอัตราเข้มงวดสูงสุดตามประกาศข้อกำหนดแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายของทางราชการ โดยยังคงรักษาคุณภาพการให้บริการ และภาพรวม การดำเนินงานของ ทอท. พร้อมขอความร่วมมือให้พนักงานและลูกจ้างของ ทอท. ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวเกิดขึ้นจากการพบว่า มีพนักงานที่สนามบินสุวรรณภูมิติดเชื้อโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวมีจำนวนมากกระจายอยู่ในหลายส่วนงานซึ่งล้วนเป็นฝ่ายปฏิบัติการเกี่ยวข้องกับการให้บริการสนามบินทั้งสิ้น ได้แก่ ส่วนตระเวนระงับเหตุ ส่วนจราจร ส่วนตรวจค้น ส่วนรักษาการณ์ ซึ่งทำงานเป็นผลัด ทำให้มีคนไม่พอให้บริการดังกล่าว