7 ข้อคิดธรรมมะดีๆ ปี 2565 จากเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ”

7 ข้อคิด

ปี 2565 กำลังจะผ่านพ้นไป เริ่มต้นศักราชใหม่ ด้วยความไม่ประมาท และเพื่อเป็นข้อคิดเครื่องเตือนใจ พร้อมรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่จะเข้ามาในชีวิต โครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้รวบรวม 7 ธรรมะ และประสบการณ์ดีๆ จาก 7 พระอาจารย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ได้กรุณามาแสดงธรรมบรรยายบนเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น” ในปี 2565 ซึ่งจัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ขอส่งมอบแทนคำอวยพรดีๆ ต้อนรับปีใหม่ที่จะก้าวมาถึงนี้

ในปีใหม่ ทุกคนต่างมุ่งหวังให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ มากขึ้น ตามกระแสโลกที่ย้ำเรื่องการประสบความสำเร็จ มุ่งไปข้างหน้า แต่กระแสธรรมย้อนกลับเข้ามาทางใจ พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า “กระแสโลกเน้นให้อยู่แบบสะดวกสบาย แต่กระแสธรรมจะเน้นให้อยู่แบบไม่เป็นทุกข์ ถ้าอยากมีความสุขต้องฝึกจิต แต่ถ้าอยากมีความสะดวกสบายต้องขยันหาเงินเยอะ ๆ แต่ถ้าอยากมีทั้งสองอย่าง ต้องฝึกจิตไปด้วย หาเงินไปด้วย เพราะฉะนั้นกระแสโลก และกระแสธรรมต้องไปด้วยกัน จึงจะสามารถที่จะมีความสะดวกสบาย และมีความสุข”

การก้าวทันกระแสโลกเราต้องรู้เท่าทันทุกข์เสียก่อน พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์ จ. สุพรรณบุรี สอน“มองทุกข์ในสังสารวัฏ ให้เห็นชัดในปัจจุบัน” โดยแนะนำให้ลองมองคนรอบบ้าน รอบตัว รอบชุมชน รอบประเทศ จะเห็นว่าแต่ละคนเกิดมามีชีวิตต่างกัน สิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน คือ กรรม จะทำหน้าที่จัดสรรอย่างละเอียดละออให้สรรพสัตว์มีหน้าที่ต่างกัน คนบางคนเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง ทรัพย์สมบัติ ภูมิปัญญา รูปร่างหน้าตา เหตุปัจจัยอะไรจัดสรรให้เป็นเช่นนี้ การดำรงชีวิตนี้ขอให้ทุกคนมั่นคง ในทาน ศีล ภาวนา เป็นหลัก ทานไม่จำเป็นต้องมาก แต่เปี่ยมด้วยศรัทธา บุญอาจจะมากกว่าคนทำมากแต่จิตไม่ผ่องใส ทานที่ทำบ่อย จะส่งผลในเรื่องทรัพย์ ศีล ส่งผลเรื่องอายุขัย โรคภัยไข้เจ็บ ผิวพรรณวรรณะ ถ้าเว้นขาดจากการฆ่าทำร้าย มีจิตเมตตาในสัตว์ทั้งหลาย เกิดชาติไหนโรคภัยจะน้อย บางคนอยู่จนแก่ แทบจะไม่ป่วยเลย บางคนเกิดมาก็ไม่สมบูรณ์เพราะวิบากกรรมของปาณาติบาต รักษาศีลให้ดีก็ไม่ต้องปรุงแต่งสังขารตัวเอง และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการฝึกจิต

ในการที่จะฝึกจิตเพื่อให้เกิดความสุขต้องมีกำลังซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ คนเราเมื่อหมดกำลังใจทำอะไรก็ลำบาก สุขภาพดีขนาดไหน แต่ไฟหมดก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้ ต้องมีคนเติมไฟ เติมพลังให้ พระครูวินัยธรกิตติศักดิ์ โคตมสิสฺโส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ กรุงเทพฯ ท่านว่า “สิ่งสำคัญคือการสร้างพลัง และเข้าใจ ให้มีสติ และให้นึกถึงเรื่องทั้งหลายเป็นปกติ ไม่มีอะไรอยู่ยงคงกระพันธ์ ให้เข้าใจความเป็นจริง เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดาของโลก แม้มันตั้งอยู่ แต่มันก็จะดับไป นี่เป็นธรรมชาติ เป็นธรรมะ กำลังที่พระพุทธเจ้าสอนหรือ พละ 5 ประกอบด้วย ศรัทธาพละ วิริยะพละ สติพละ สมาธิพละ ปัญญาพละ”

นอกจากกำลังแล้ว การทำสมาธิภาวนาก็เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกจิต ที่พระมหาฤทธิเดช สุเมธี เจ้าอาวาสวัดสนมหมากหญ้า จ. อุบลราชธานี ได้แนะนำว่า “การทำสมาธิภาวนาคือการเฝ้าดูตนเอง เราภาวนาครั้งแรก ก่อนจิตจะสงบพบความสุข จิตใจเราจะไม่สงบฟุ้งซ่านที่สุดก่อนที่เราจะพบความสุข เหมือนอากาศ ก่อนฝนตกจะร้อนอบอ้าวที่สุด เมื่อสงบลงกายนิ่ง จิตก็นิ่ง เราสั่งสมไปเรื่อยๆ ความสุขจะเกิดขึ้นเอง เมื่อออกจากสมาธิแล้วก็ยังมีสุขอยู่เพราะสติคุ้มครองเรา สติถูกสั่งสมมากขึ้นๆ จะเป็นไปเพื่อความดับหรือนิพพาน นิพพานน้อยๆ คือความเย็นในจิตใจ”

พระภาณุวัฒน์ เลิศประเสริฐพันธ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ จ.นนทบุรี ได้กล่าวถึง “ผู้ที่มีจิตใจของผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์” ว่า จะต้องมีปณิธานอันตั้งมั่น มีการสั่งสมบารมีธรรมมามากมาย และประกอบด้วยความเมตตากรุณา อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่มีเงื่อนไข ดุจเดียวกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงลงมา สร้างคุณประโยชน์ให้กับโลก สร้างความอบอุ่นให้พลังงาน โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ วรรณะ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณา ประกอบกับพระปัญญา ในการจะโปรดบุคคลนั้น ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ในสภาวะต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้จะสามารถเกื้อกูล อนุเคราะห์ให้โลกเรา ให้สังคมเราน่าอยู่ หากมีพระโพธิสัตว์อยู่ 1 ท่าน แล้วเพิ่มไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ ท่าน โลกเรา สังคมเรา จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตากรุณา เพราะฉะนั้น ถ้าลดความเห็นแก่ตัว ลดความชิงชัง ลดความพยาบาทซึ่งกันและกัน จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น เราต้องสร้างสันติสุขบนโลกนี้ก่อน สร้างสันติสุขในครอบครัวก่อน สร้างสันติสุขในองค์กรก่อน”

ซึ่งความเกื้อกูลกรุณาที่กล่าวมานี้ก็สอดคล้องกับที่พระมหาชาญชัย พฺรหฺมปติฎฺโฐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพลีลา กรุงเทพฯ ได้กล่าวถึงชีวิตที่ประเสริฐว่า “ชีวิตเราจะประเสริฐได้ เราต้องมีความเกื้อกูล กรุณา ดีใจไปกับคนอื่น หรือมุทิตา เหล่านี้เป็นธรรมของผู้ประเสริฐ เมื่อชีวิตประเสริฐแม้เพียงวันเดียว นาทีเดียว ก็ถือว่าชีวิตนั้นมีคุณค่ามาก โลกใบนี้จะน่าอยู่ ชีวิตของเรา ทำหน้าที่ดูแลให้คุ้มค่าให้เจริญ”

อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมุ่งหวังนอกจากให้มีชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ในศักราชหน้า คือ “ขอให้รวย” พระพุทธเจ้าเคยตรัสแนะนำให้ชาวพุทธ มีทรัพย์ มีความเจริญในทรัพย์ พระองค์ตรัสถึงธรรมข้อหนึ่งที่ทุกคนควรเจริญ คือ เจริญด้วยนาและสวน คือมีที่ดิน เจริญด้วยทรัพย์ คือมีข้าวเปลือก เพราะข้าวเปลือกสมัยนั้นเป็นของมีค่า เจริญด้วยบุตรและภรรยา หมายถึงมีครอบครัวที่ดี ที่เจริญ เจริญด้วยบริวารและผู้รับใช้ เจริญด้วยสัตว์สี่เท้า 5 ข้อนี้เป็นวัตถุ เป็นรูปธรรม ส่วนอีก 5 ข้อเป็นนามธรรม คือมี ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ศรัทธา พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล สวนธรรมประสานสุข จ.ชลบุรี ได้สรุปข้อปฏิบัติ สำหรับคนที่อยากรวยว่า “ความเจริญทางด้านวัตถุ 5 อย่าง ควรทำ ควรมี ควรหา ขยันหา ต้องสร้างเหตุในการได้วัตถุนั้น และยิ่งกว่าวัตถุคือ คุณธรรม 5 อย่างที่กล่าวมา คือ มีศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ฝึกทั้ง 5 อย่างตอนนี้ สามารถใช้ได้ไปตลอด”

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสาระดีๆ จากเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” แบบนี้ สามารถรับฟังสด และย้อนหลังได้ทาง facebook fanpage CAPLL ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. นอกจากนี้ ยังมีคติธรรมดีๆ ฟังง่ายๆ ผ่าน TikTok ที่ ธรรมะTikTok