PCC สุดแกร่ง! เปิดงบ Q1/66 กำไรพุ่ง 17.16%

PCC

งานติดตั้งอุปกรณ์ระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟคึกคัก มั่นใจรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง ปักธง 3 ปีแตะ 6 พันลบ.

บมจ. พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น (PCC) โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 แข็งแกร่ง กวาดรายได้รวมอยู่ที่  1,052.61  ล้านบาท เพิ่มขึ้น  34.30% และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ 75.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และงานโครงการจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟสนับสนุน ฟากซีอีโอ “กิตติ สัมฤทธิ์” มั่นใจรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง หลังเพิ่มกำลังการผลิตผลิตหม้อแปลง พร้อมยืนเป้ารายได้ 3 ปีข้างหน้า (2566-2568) รายได้แตะ 6,000 ล้านบาท  หวังภาครัฐส่งเสริมการลงทุนระบบสมาร์ทกริดเพิ่มขึ้น

นายกิตติ สัมฤทธิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พรีไซซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PCC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,052.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.30% เมื่อเทียบจากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 783.77 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ 75.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.16% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 64.26 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานของบริษัท ยังคงมีอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักจากการขายกลุ่มสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า กลุ่มสินค้าปรับแรงดัน และป้องกันกระแสและแรงดันเกินพิกัด สวิตช์ตัดตอน และอุปกรณ์ฉนวนในระบบจำหน่ายและกลุ่มโคมไฟแอลอีดีให้กับลูกค้าเอกชนเพิ่มขึ้น และจากงานโครงการจัดหา พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software  ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ และสัญญาจ้าง หาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Feeder Device Interface (FDI) และอุปกรณ์วิทยุสื่อสารและจากงานปรับปรุงคุณภาพเครื่องบดถ่านหินของโรงไฟฟ้า” นายกิตติ กล่าว

สำหรับแนวโน้มรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,860 ล้านบาท  เนื่องจากบริษัทฯมองเห็นโอกาสใหม่ๆและการเติบโตของรายได้จากการเพิ่มกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า  และการขยายตัวของระบบสมาร์ทกริด รวมทั้งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ

ทั้งนี้ สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปี (2566-2568) บริษัทฯยังคงเป้ารายได้แตะ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีการลงทุนด้านสมาร์ทกริดที่เพิ่มขึ้นทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างแน่นอน