![image1 In-Vitro Fertilization](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2024/05/image1-258-728x410.jpg)
ปัจจุบันปัญหาการมีบุตรยากไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป เพราะได้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างการทำ “เด็กหลอดแก้ว” หรือ In-Vitro Fertilization มาเพื่อแก้ปัญหา สร้างโอกาสและความหวังในการตั้งครรภ์ให้แก่ครอบครัวที่มีบุตรยาก
โดยเด็กหลอดแก้ว คือการเก็บสิ่งที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ออกมาทำการปฏิสนธิภายนอกจนเกิดเป็นตัวอ่อน และเมื่อตัวอ่อนพร้อมที่จะฝังตัวแล้วก็จะทำการย้ายตัวอ่อนกลับสู่มดลูก เพื่อที่จะดำเนินการตั้งครรภ์ตามขั้นตอนทางธรรมชาติต่อไป
- วิธียืนยันตัวตน แอปทางรัฐ ผ่าน 7-11 รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 มิ.ย. 2567
- เปิดเหตุผล ทำไม ฮาตาริ ตัดสินใจรีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 34 ปี แม้ถือมาร์เก็ตแชร์ 70%
ดังนั้นการทำเด็กหลอดแก้ว IVF จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับหลายครอบครัวที่มีปัญหามีบุตรยาก ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังสนใจการทำเด็กหลอดแก้วว่ามีขั้นตอนและการเตรียมตัวอย่างไร ลองมาดูกัน
เด็กหลอดแก้ว คืออะไร
เด็กหลอดแก้ว (In-Vitro Fertility: IVF) คือ การเก็บเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิง และอสุจิของฝ่ายชายออกมาเพื่อทำการปฏิสนธิภายนอก โดยจะมีการคัดเลือกอสุจิที่มีความปกติแข็งแรง จากนั้นให้อสุจิเจาะเซลล์ไข่เองตามธรรมชาติในจานเพาะเลี้ยงภายใต้การควบคุมอุณหภูมิในห้องปฏิบัติการ
การทำเด็กหลอดแก้วถือเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ว่าสามารถเป็นทางเลือกเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก และในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลง เนื่องจากแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพรวมถึงภาวะที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์หรือมีบุตรยาก เพื่อที่จะได้วางแผนการรักษา และการป้องกันให้เหมาะสมกับผู้ที่มารับบริการแต่ละท่าน
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว 4 ขั้นตอน เป็นอย่างไร
เนื่องจากการทำเด็กหลอดแก้วเป็นการปฏิสนธิในหลอดแก้วหรือจานเพาะเลี้ยงภายนอกร่างกาย ดังนั้นกระบวนการและขั้นตอนจะต้องเป็นไปอย่างแม่นยำ ทั้งอุณหภูมิที่ใช้เพาะเลี้ยง ขนาดของเซลล์ไข่ที่พร้อมปฏิสนธิ รวมไปถึงเรื่องของความสะอาดในห้องปฏิบัติการ เพื่อที่จะให้การดำเนินการทำเด็กหลอดแก้วเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โดยขั้นตอนของการทำเด็กหลอดแก้ว มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ดังนี้
1. การกระตุ้นไข่
เมื่อผ่านการตรวจประเมินร่างกายและสุขภาพว่าเป็นผู้มีบุตรยากแล้ว แพทย์จะนัดทำการกระตุ้นไข่ด้วยการฉีดฮอร์โมนในวันที่ 2 ของรอบเดือนเป็นระยะเวลา 9-14 วัน และจะมีการอัลตราซาวด์เพื่อสังเกตการเจริญเติบโตของเซลล์ไข่จนกว่าจะได้ขนาดเซลล์ไข่ที่เหมาะสม จากนั้นจึงจะมีการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นให้ไข่ตก และเตรียมตัวสำหรับการเก็บไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้วภายใน 34-36 ชั่วโมง
2. การเก็บไข่
เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมในการเก็บไข่หลังจากฉีดฮอร์โมนกระตุ้นไข่ตกแล้ว แพทย์จะทำการเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอด ในขณะเดียวกันก็จะมีการเก็บอสุจิจากฝ่ายชายเพื่อนำมาคัดแยกวิเคราะห์คุณภาพอสุจิที่เหมาะสม โดยอสุจิที่จะสามารถนำไปรวมกับจานเพาะเลี้ยงเด็กหลอดแก้วที่มีเซลล์ไข่อยู่ได้จะต้องมีความแข็งแรงสมบูรณ์
เมื่อปล่อยอสุจิลงไปในจานเพาะเลี้ยงแล้ว ตัวอสุจิก็จะทำการเจาะเซลล์ไข่ตามธรรมชาติ จากนั้นก็จะทำการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนเด็กหลอดแก้วต่อไป
3. การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน
การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะต้องทำการควบคุมอุณหภูมิ สภาวะแวดล้อมภายในห้องปฏิบัติการ และมีการให้สารอาหารสำคัญด้วยน้ำยาหล่อเลี้ยงให้ตัวอ่อนมีการเจริญเติบโต โดยการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจะทำจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ก่อนที่จะทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก
4. การย้ายตัวอ่อน
เมื่อการทำตัวอ่อนเด็กหลอดแก้วถึงระยะบลาสโตซิสต์แล้ว จะต้องมีการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตภายในครรภ์ตามธรรมชาติต่อไป โดยการย้ายตัวอ่อนจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ การย้ายตัวอ่อนสด และการย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง
การย้ายตัวอ่อนสด สามารถทำได้ในรอบการกระตุ้นและเก็บเซลล์ไข่ทันที ซึ่งแพทย์จะทำการนัดมาย้ายตัวอ่อนเมื่อตัวอ่อนอยู่ในระยะบลาสโตซิสต์ มีความแข็งแรง และสามารถเจริญเติบโตได้ดี
ในส่วนของการย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง จะทำในกรณีที่แพทย์ประเมินว่าผนังมดลูกยังไม่มีความพร้อมที่จะนำตัวอ่อนกลับเข้าสู่การเจริญเติบโตในครรภ์ ตัวอ่อนจึงจะถูกนำไปแช่แข็งไว้ก่อนเพื่อคงระยะการเจริญเติบโตและความสมบูรณ์ของตัวอ่อน จากนั้นเมื่อมีการประเมินแล้วว่าผนังมดลูกมีความแข็งแรงพอที่จะย้ายตัวอ่อนเข้าไปได้ ก็จะนำตัวอ่อนมาละลายเพื่อนำเข้าสู่โพรงมดลูกต่อไป
หากต้องทำการย้ายตัวอ่อนของเด็กหลอดแก้วแช่แข็งเข้าสู่โพรงมดลูก ฝ่ายหญิงจะต้องมีการเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกให้มีความหนา แข็งแรง โดยจะมี 2 วิธีเช่นกัน นั่นคือวิธีธรรมชาติ และวิธีใช้ยาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก
การเตรียมตัวก่อนเริ่มทำเด็กหลอดแก้ว
ก่อนเริ่มทำเด็กหลอดแก้ว ผู้มีบุตรยากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว เพราะถ้าหากสุขภาพร่างกายมีความแข็งแรงในช่วงการเก็บเซลล์ไข่และอสุจิ ก็จะส่งผลที่ดีให้กับการทำเด็กหลอดแก้วเช่นกัน ดังนั้นควรมีการเตรียมตัวดูแลตนเองดังนี้
การเตรียมตัวของฝ่ายชาย
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พยายามหลีกเลี่ยงภาวะเครียด
การเตรียมตัวของฝ่ายหญิง
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- รับประทานโปรตีนประมาณวันละ 60 มิลลิกรัม
- ดื่มน้ำให้มากอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน
- ควบคุมน้ำหนัก
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก เช่น โยคะ
- พยายามหลีกเลี่ยงภาวะเครียด
Safe Fertility ศูนย์ผู้เชี่ยวชาญการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
เด็กหลอดแก้ว คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อการตั้งครรภ์ด้วยการนำเซลล์ไข่จากฝ่ายหญิง และอสุจิจากฝ่ายชายมาทำการปฏิสนธิภายนอก จากนั้นจะมีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนให้ถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) เพื่อที่จะทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก และเจริญเติบโตในครรภ์ต่อไป
การทำเด็กหลอดแก้วถือเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้ผู้มีบุตรยากสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ และยังมีข้อดีในเรื่องของสุขภาพที่ดีของตัวอ่อน เนื่องจากก่อนที่จะทำการปฏิสนธินั้น แพทย์จะทำการคัดแยกอสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์ จากนั้นเมื่อทำการเพาะเลี้ยงก็จะมีการสังเกตการเจริญเติบโตของตัวอ่อนก่อนที่จะย้ายกลับสู่ครรภ์ฝ่ายหญิง รวมถึงการประเมินสุขภาพเพื่อการตั้งครรภ์ในทุกขั้นตอน
ที่ศูนย์มีบุตรยาก SAFE Fertility ก็ได้มีการรักษาและสร้างโอกาสในการตั้งครรภ์ให้แก่ผู้มีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้วที่ได้รับการรับรองคุณภาพในระดับสากล แพทย์มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมประเมินทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ทางศูนย์มีความมุ่งเน้นและตั้งใจเพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์สำหรับท่านที่ต้องการมีบุตร
ปรึกษาวางแผนการตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว กับ SAFE Fertility ได้ที่
Line@: @Safefertilitygroup
Hotline: 081-102-1000
Call Center: 02-252-3833-5
Email address: [email protected]