นายหน้าเถื่อน พาไปทำงานสหรัฐอเมริกา เช็กรายชื่อบริษัทก่อนโอนเงิน

USA
Photo: Robert Linder/unsplash

กรมการจัดหางาน นายหน้าเถื่อนอ้างพาไปทำงานสหรัฐอเมริกา เช็กรายชื่อบริษัทจัดหางานกับกรมการจัดหางานทุกครั้ง ก่อนหลงเชื่อโอนเงิน

วันที่ 23 มกราคม 2567 นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานได้รับแจ้งจากผู้เสียหายผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ว่ามีนายหน้าเถื่อนแอบอ้างเป็นตัวแทนของบริษัทเอกชน ประกอบกิจการควบคุมและบริหารจัดการด้านงานก่อสร้าง สามารถช่วยเหลือพาคนหางานไทยไปทำงานที่เกาะกวม ประเทศสหรัฐอเมริกา ในตำแหน่งช่างเชื่อม ช่างประกอบ และแม่บ้าน ได้ค่าจ้างวันละ 1,020-3,000 บาท

โดยนายหน้ารายนี้จะโพสต์หาผู้สนใจทางกลุ่มไลน์ ชื่อกลุ่ม “ทีมงานเกาะกวม สหรัฐอเมริกา” และกลุ่มอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการชักชวนบอกต่อกันในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพช่าง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา กรมการจัดหางานได้รับแจ้งว่า สาย-นายหน้าจะนัดหมายผู้เสียหายรับสมัครงานเซ็นสัญญาจ้างงานและชี้แจงรายละเอียดการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ณ โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง

เจ้าหน้าที่กองทะเบียนและคุ้มครองคนหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายอำเภอบ้างฉาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจ อำเภอบ้านฉาง จึงร่วมกันแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ซึ่งพบเจ้าหน้าที่บริษัทดังกล่าวกำลังดำเนินการลงทะเบียนเพื่อเซ็นสัญญาจ้าง โดยผู้เสียหายประมาณ 300 คน มีการโอนเงินค่าดำเนินการขอวีซ่าคนละ 10,000 บาทให้กับบริษัทไปแล้ว เป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 3,000,000 บาท

สำนักงานจัดหางานจังหวัดระยองจึงแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวม 11 คน ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฉาง ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง มาตรา 50 ห้ามมิให้นายจ้างในต่างประเทศ หรือตัวแทนทำการรับสมัครเพื่อหาลูกจ้างในประเทศไทยด้วยตนเองเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ

โดยผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 30 และมาตรา 50 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วย มาตรา 66 โฆษณาการจัดหางานไม่เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และมาตรา 91 ตรี ผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

นายสมชายกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการจัดหางานขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า ก่อนตัดสินใจโอนเงินให้สายนายหน้าหรือผู้แทนบริษัทรายใด ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศจากกรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน doe.go.th/ipd เสียก่อน

เพราะปัจจุบันสาย-นายหน้ามีกลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงคนหางานหลายวิธี โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีการดำเนินคดีสาย นายหน้าเถื่อนแล้ว 131 ราย หลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 232 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 16,787,622 บาท ซึ่งประเทศที่พบคนหางานถูกหลอกลวงไปทำงานมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเดนมาร์ก ตามลำดับ

ทั้งนี้ ผู้สนใจทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e-Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694