เป๊ปซี่โคเผยรายงาน ESG ประจำปี 2565 เปลี่ยนกลยุทธ์ครบวงจรให้ยั่งยืน

มันฝรั่ง

เป๊ปซี่โคเผยรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG ประจำปี 2565 ซึ่งถือเป็นรายงานฉบับเต็มปีครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวกลยุทธ์ PepsiCo Positive (pep+) ในปี 2564

pep+ มีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครบวงจรอย่างยั่งยืน จากต้นทางจนถึงปลายทางในทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่วิธีการปลูกพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไปจนถึงวิธีการผลิต การขนส่ง และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดย pep+ เป็นกรอบการทำงานที่ขับเคลื่อนการดำเนินการทั้งหมด ทั้งการกำหนดเป้าหมายและวิธีการเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย

สำหรับปี 2565 เป๊ปซี่โคได้รายงานความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านโภชนาการ การเกษตร สังคม (ผู้คนและชุมชน) ประสิทธิภาพในการใช้น้ำ และเป้าหมายการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด เป๊ปซี่โคมุ่งมั่นที่จะจัดทำรายงานอย่างโปร่งใส และได้รับรางวัลการกำกับดูแลกิจการของเลขานุการบริษัท (Corporate Secretary’s Corporate Governance Awards) เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันในฐานะ “การรายงาน ESG ที่ดีที่สุด” สำหรับบริษัทขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดด้านความยั่งยืน Pepsico
จิม แอนดรูว์

“จิม แอนดรูว์” เจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดด้านความยั่งยืน Pepsico กล่าวว่า การแบ่งแยกระหว่างความเติบโตทางธุรกิจจากการใช้ทรัพยากรเป็นเรื่องยากเสมอ บริษัทได้ออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (green bonds) มูลค่า 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งรวมถึงการมุ่งสู่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) และลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ (virgin plastics) นอกจากนี้ เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อขจัดอุปสรรคในความก้าวหน้า แม้ว่าจะมีข้อบังคับโดยธรรมชาติหลายประการ รวมถึงความท้าทายในการจัดการกับปัญหาเชิงระบบนั้นยิ่งใหญ่มาก และเราจะต้องหาแนวทางร่วมกับภาคีเครือข่ายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้ไปถึงจุดที่ทุกคนต้องการ

เป๊ปซี่โครายงานผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

Advertisment

– เป็นปีที่ 2 ที่ 75% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสะดวกซื้อ มีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 1.1 กรัมต่อปริมาณอาหาร 100 แคลอรี โดยเป๊ปซี่โคได้บรรลุเป้าหมายนี้ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึง 4 ปี

– ลดปริมาณน้ำตาลและโซเดียมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในปี 2565

– 56% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้งหมดของเป๊ปซี่โค มีแคลอรีจากน้ำตาลน้อยกว่า 100 แคลอรีต่อปริมาณเครื่องดื่ม 12 ออนซ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 53% ในปี 2564

– ปัจจุบัน 68% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสะดวกซื้อมีโซเดียมไม่เกิน 1.3 มิลลิกรัมต่อปริมาณอาหาร 100 แคลอรี โดยเพิ่มขึ้นจาก 66% ในปี 2564

Advertisment

– เพิ่มพื้นที่การเกษตรเชิงฟื้นฟู (regenerating farming) ได้มากกว่า 900,000 เอเคอร์ทั่วโลก โดยนับเป็นสองเท่าของปี 2565

– เป๊ปซี่โคช่วยให้เกษตรกรมีทักษะการปรับตัวได้ดีขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากภาคการเกษตรไปกว่า 330,000 เมตริกตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดรถยนต์จากท้องถนนไปมากกว่า 73,000 คันต่อปี

– สำเร็จเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนผู้บริหารในสหรัฐ ที่มีเชื้อสายละติน จากเป้าหมาย 10% เป๊ปซี่โคได้บรรลุเป้าหมายนี้ก่อนเวลา 3 ปี

– เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำในการผลิตขึ้น 22% ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเรื่องการขาดแคลนน้ำ ตั้งแต่ปี 2558 ขณะนี้เป๊ปซี่โคได้เข้าใกล้เป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ 25% ภายในปี 2568

– ช่วยให้ประชากร 12 ล้านคนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดได้ในปี 2565

– เป๊ปซี่โคยังจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเหล่านั้นแล้วกว่า 80 ล้านคนทั่วโลก

“แชนด์เลอร์ กูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมผู้ปลูกข้าวสาลีแห่งชาติ (National Association of Wheat Growers) กล่าวถึงแนวทางของเป๊ปซี่โค ในการมีส่วนร่วมกับเกษตรกรและการใช้ประโยชน์จากแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรเชิงฟื้นฟูเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า

“เป๊ปซี่โคถือว่าเป็นผู้นำในการแสดงให้เห็นว่าบริษัทอาหารและผู้ผลิตสามารถร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน ราคาย่อมเยาและอาหารที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เป๊ปซี่โคยังได้ลงทุนและมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปการเกษตร และเป็นผู้นำในการมีส่วนร่วมกับเกษตรกรตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อสร้างความมั่นใจในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนและได้ประโยชน์ร่วมกัน”

ในส่วนของประเทศไทย เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ได้เข้าร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit-GIZ) และหน่วยงานภาครัฐของไทยในการเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกร เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ภายใต้โครงการการจัดการห่วงโซ่อุปทานข้าวและมันฝรั่งเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

พาเลตของ Pepsico

ด้วยวิธีการปลูกข้าวมันฝรั่งและข้าวโพดหมุนเวียนอย่างยั่งยืน รวมถึงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อให้ความรู้ และเก็บกลับขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนหลายชั้น เพื่อนำขยะเหล่านี้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นที่มีคุณค่าได้ อาทิ การแปรรูปเป็นไม้เทียม

เพื่อเป็นการเสริมบทสรุปของรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ประจำปี 2565 เป๊ปซี่โคได้เผยแพร่รายละเอียดที่มีหัวข้อเกี่ยวกับการดำเนินงานและความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนของบริษัทราว 50 หัวข้อ รวมไปถึงหัวข้อถาม-ตอบ ESG Topics A-Z ของเป๊ปซี่โค โดยข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลของปีนี้ และเนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ www.pepsico.com/our-impact/sustainability/report-downloads

ารปลูกมันฝรั่งอำเภอเม่แตง