ESG Forum จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย

ต้องยอมรับว่าแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืนอันประกอบด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อม (E-environment) สังคม (S-social) และธรรมาภิบาล (G-governance) หรือที่เรียกรวม ๆ ว่า “ESG” ต่างเป็นหมุดหมายใหม่ที่ทำให้กฎ กติกาการทำธุรกิจในปัจจุบันเกิดความเปลี่ยนแปลง

เพราะเดิมทีองค์กรธุรกิจต่างมุ่งแสวงหาผลกำไรแต่เพียงถ่ายเดียว แต่ปัจจุบัน หากองค์กรธุรกิจใดไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาลเป็นอันดับแรก ๆ องค์กรธุรกิจเหล่านั้นจะถูกขีดวงแคบให้หายไปจากโลกของธุรกิจ

โดยเฉพาะโลกของตลาดทุน

เพราะแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืน ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (sustainable development goals-SDGs) ใน 17 เป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ หากยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับดัชนีความยั่งยืน (sustainability index) เพื่อชี้วัดว่าบริษัทต่าง ๆ มีการดำเนินการธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวคิด ESG อย่างไร

ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่หลายคนคงอาจคุ้นชินกับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI), ดัชนีอ้างอิงเพื่อวัดผลการลงทุน และดัชนีเพื่อการซื้อขายสำหรับนักลงทุน (FTSE4Good Index) รวมถึงการประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน (MSCI ESG Index) เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการจัดตั้งเกณฑ์หุ้นยั่งยืน (THSI) โดยบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องดำเนินธุรกิจด้วยการคำนึงถึงเรื่องของ ESG เป็นหลัก ทั้งยังจะต้องผ่านการประเมินคะแนนทั้ง 3 มิติ ถึงจะถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน

ถามว่ายากไหม ?

ไม่ยาก

เพราะปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯทั่วโลกต่างมองเห็นเทรนด์ทางธุรกิจที่จะนำเรื่องของ “ESG” ไปผนวกในค่านิยมองค์กร และนโยบายของบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ, การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางสังคม

รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกลุ่มพลังงานสะอาด, กลุ่มธุรกิจก่อสร้างหรือผลิตชิ้นส่วนที่ช่วยลดโลกร้อน, กลุ่มธุรกิจการขนส่งแบบยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าทั้งระบบ และอื่น ๆ

ที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เศรษฐกิจสีเขียว”

อันเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะทำให้ “ประเทศไทย” ก้าวข้ามสู่การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผลตรงนี้ จึงทำให้ “ประชาชาติธุรกิจ” จัดงานสัมมนา “ESG Forum จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย” ที่ไม่เพียงจะมี “ขัตติยา อินทรวิชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย มาเสวนาพิเศษในหัวข้อ “จุดเปลี่ยนศักยภาพใหม่เศรษฐกิจไทย”

หากยังมาแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจไทยกับความสำคัญเรื่องของ “ESG” รวมถึงมุมมองเรื่อง “ความยั่งยืน” ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจของไทยในอนาคต ที่ไม่เพียงจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยจำเป็นต้องวางแนวทางสำหรับเรื่องนี้อย่างไร หากยังจะต้องตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจสีเขียวในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย

สำคัญไปกว่านั้น “ขัตติยา” จะมาพูดถึงแนวคิด “ESG” เพื่อนำไปสู่ “จุดเปลี่ยน” และ “เพิ่มศักยภาพใหม่” ของ “เศรษฐกิจไทย” อย่างไรบ้าง ?

ขณะที่ “คงกระพัน อินทรแจ้ง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) จะมานำเสนอทิศทางธุรกิจโดยรวมของ PTTGC อันเกี่ยวข้องกับกระแสความยั่งยืนที่จะเข้ามามีบทบาทต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจ จนทำให้ PTTGC จำเป็นต้องสร้าง Next chapter ของ PTTGC ในอนาคต

ในมุมมองเดียวกัน “ธนพล ศิริธนชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จะมานำเสนอการออกแบบกลยุทธ์ ESG ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับธุรกิจของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯในระยะยาว รวมทั้งเรื่องการลงทุนยุคใหม่ที่จะต้องให้ความสำคัญกับผลประกอบการ พนักงาน โดยจะต้องสอดประสานกับแนวทางของ ESG อย่างเป็นระบบ

ซึ่งเหมือนกับ “วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร ที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องของแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนผลประกอบการ, พนักงาน และผู้เกี่ยวข้องใน ecosystem เพื่อก้าวไปสู่แนวทางของ ESG รวมถึงกรณีศึกษาต่อการนำ ESG เข้าไปมีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจของ บมจ.เบทาโกร อย่างยั่งยืน

นอกจากนั้น ในส่วนของ “เจมส์ ทีก” ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด จะมานำเสนอในหัวข้อสัมมนาที่ชื่อ “เส้นทางใหม่ ไร้ขีดจำกัด” ที่ไม่เพียงจะมาฉายภาพในเรื่องของบทเรียนทางธุรกิจ และสังคมต่อสถานการณ์โควิด-19 ตลอด 2-3 ปีผ่านมา หากจะมาแลกเปลี่ยนมุมมองว่าทำไมภาคธุรกิจถึงต้องให้ความสำคัญกับ ESG และบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพของคนไทยอย่างไรในอนาคต

นับว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน ในภาคสุดท้ายของงานสัมมนา “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมาปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สร้างศักยภาพใหม่ให้เป็นจริง” โดยจะมานำเสนอในเรื่องของการยกระดับมหานครกรุงเทพให้เทียบเคียงกับมหานครชั้นนำต่าง ๆ ของโลก พร้อมกับดึงศักยภาพของเมืองหลวงมาตอบโจทย์เรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน

รวมไปถึงการนำบริบทของ “ESG” มาปรับใช้กับมหานครกรุงเทพ เพื่อให้เป็นเมืองหลวงสีเขียวในอนาคต

โดยทั้งหมดที่กล่าวมา งานสัมมนา “ESG Forum จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย” จะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 21 กันยายน 2565 ระหว่างเวลา 13.00-16.45 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ 1 (ชั้น 5) สามย่านมิตรทาวน์ ดังนั้น ถ้าผู้ใดสนใจ สามารถลงทะเบียนสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ https://bit.ly/3KGfrt6 (รับจำนวนจำกัด)

แล้วทุกท่านจะรู้ว่างานสัมมนาครั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ตั้งใจให้เป็นงาน “สัมมนาเพื่อสังคมแห่งปี” อย่างแท้จริง