Care the Wild ผนึก IRPC ปลูกจิตสำนึกป้องป่าชุมชน

ด้วยนโยบายป่าไม้แห่งชาติ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทุกประเภทให้ได้ร้อยละ 55 ภายในปี 2580 และเจตนารมณ์ของประเทศไทยต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) ที่จะยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่และทุกวิถีทาง

โดยจะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2608

หนึ่งในวิธีสำคัญที่ทุกคนสามารถช่วยกันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ไม่ยาก คือ “การปลูกป่า” เพื่อทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุหลักของปัญหาโลกร้อน และช่วยฟื้นฟูการเกิดความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อเกื้อกูลให้ระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมกลับมาสมบูรณ์ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของทั้งผู้คนและสัตว์ป่า รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารของชุมชนอย่างยั่งยืน

เช่นเดียวกับ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ที่มุ่งมั่นร่วมมือสนับสนุนโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง Plant & Protect” ซึ่งถือเป็น collaboration platform ที่เป็นกลไกเพื่อการระดมทุน เพื่อการปลูกต้นไม้ใหม่ ปลูกต้นไม้เสริม และส่งเสริมการดูแลต้นไม้ ดำเนินโครงการโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน

ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 IRPC นำทีมผู้บริหารและพนักงานร่วมลงพื้นที่กับชุมชน ณ ป่าชุมชนบ้านโคกพลวง ต.หินโคน อ.จักราช จ.นครราชสีมา ทำกิจกรรม “ปลูกจิตสำนึก ป้องป่าชุมชน” ติดตามผลปลูกป่าที่ได้ทำการปลูกแล้วเสร็จไปจำนวน 10 ไร่ เมื่อกรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงฤดูปลูกที่ผ่านมา

รวมถึงได้นำเยาวชนกว่า 30 คน จาก 4 โรงเรียนร่วมทำกิจกรรมปลูกและเรียนรู้กระบวนการรักษาดูแลต้นไม้ของชุมชนอีกด้วย ได้แก่ โรงเรียนบ้านหินโคน โรงเรียนเสมาอุปถัมภ์ โรงเรียนบ้านสวนปอ และโรงเรียนบ้านหนองจระเข้หิน

“ธวัชชัย ชัยปราโมทย์” ผู้จัดการอาวุโส กำกับดูแลกิจการที่ดี บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า IRPC ไม่ใช่แค่บริษัทที่ผลิตน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมี เม็ดพลาสติก แต่ได้แสวงหานวัตกรรม พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่ง “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว”

การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และต้องร่วมกันดำเนินกลยุทธ์การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในการปรับปรุงกระบวนผลิต การพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี การใช้พลังงานสะอาด การผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างพื้นที่สีเขียว เช่น การปลูกป่า เป็นต้น

“IRPC จึงประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจนเช่นกันว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะต้องสนับสนุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2603 ซึ่งพยายามทำให้เร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทยประมาณ 5 ปี นอกจากนี้ IRPC ยังส่งเสริมการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เพื่อก่อให้เกิดความสมดุล 3 ด้าน ได้แก่ E (environment) การรักษาและฟื้นฟูธรรมชาติ, S (social) การดูแลสังคม และ G (governance) การดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล

ซึ่งโครงการ Care the Wild เป็นหนึ่งการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ ESG เพราะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน ช่วยพัฒนาชุมชน และมีความโปร่งใสในการดำเนินงาน เพราะมีกระบวนการติดตามและการรายงานผลปลูกต่อเนื่อง IRPC ในฐานะผู้บริจาคเงินจะได้รับข้อมูลดังกล่าวในการติดตามข้อมูลการเติบโตทุก 6 เดือน”

“ธวัชชัย” อธิบายว่า นอกจากโครงการ Care the Wild มีส่วนสำคัญทำให้ชุมชนมีทุนซื้อต้นไม้มาปลูกแล้ว ยังช่วยสร้างระบบน้ำที่ดำเนินการตามแผนรองรับการขาดช่วงฤดูฝน เพื่อทำให้ต้นไม้มีอัตรารอดตายสูงสุด และช่วยสร้างรายได้จากการเป็นแหล่งอาหารให้ชุมชนในพื้นที่

จุดแข็งของชุมชนบ้านโคกพลวงคือเป็นชุมชนที่มีความพร้อมในการพัฒนาผืนป่าขนาดใหญ่ และพร้อมดูแลระบบการจัดการน้ำ ที่ทางโครงการให้งบฯสร้างเพื่อรองรับการขาดช่วงฤดูฝน เราเห็นถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมของคนในชุมชน เราจึงมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถดูแลต้นไม้นี้ให้มีอัตรารอดสูง

“IRPC เชื่อว่าธุรกิจสามารถเติบโตควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น โครงการปลูกป่า Care the Wild ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับกรมป่าไม้ และกลุ่มพันธมิตรในครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ และเป็นก้าวที่สำคัญที่จะทำให้ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคสังคม ได้มีส่วนร่วมในความรับผิดชอบในการดูแลรักษาโลกที่เราอยู่”

โดยหนึ่งในตัวแทนนักเรียน 30 คนที่เข้าร่วมกิจกรรมบอกว่า กิจกรรมปลูกป่ามีประโยชน์และจะสร้างโลกสีเขียวเป็นที่อยู่อาศัยสัตว์ป่า สร้างอากาศที่ดี ทำให้โลกไม่ร้อนสำหรับคนรุ่นต่อไป

“ขอบคุณบริษัทไออาร์พีซี และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่จัดทำโครงการดี ๆ ‘Care the Wild ปลูกป้อง Plant & Protect’ และได้ชวนพวกหนูกับเพื่อน ๆ ทั้ง 4 โรงเรียนมาร่วมกิจกรรมวันนี้ หนูได้มีส่วนช่วยยกต้นไม้มาวางเตรียมไว้เพื่อใส่ในหลุม ได้ช่วยกลบดินรดน้ำ และเห็นระบบน้ำหยดในแปลงจากบ่อบาดาลสำหรับรดน้ำต้นไม้ฤดูแล้ง และยังได้รับมอบอุปกรณ์กีฬาให้พวกเราที่โรงเรียนได้เล่นออกกำลังกายอีกด้วย”

โครงการ Care the Wild เป็นหนึ่งในโครงการที่นำไปสู่การพัฒนาที่สมดุล และอยู่ร่วมกันของชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ESG) สอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย และการพัฒนาป่าชุมชน โดยให้ชุมชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ที่สำคัญที่สุดคือการปลูกจิตสำนึกเรื่องความยั่งยืน และส่งต่อเจตนารมณ์นี้ให้คนรุ่นต่อไป

สนใจโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง Plant & Protect” แพลตฟอร์มระดมทุนปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ร่วมสร้างสมดุลระบบนิเวศจากต้นทาง เพื่อลดภาวะโลกร้อนและเป็นแหล่งอาหารชุมชนอย่างยั่งยืน องค์กรที่สนใจร่วมปลูกไม้ให้ได้ป่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.setsocialimpact.com หรือ SET Contact Center 0-2009-9999