เร่งช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล ส่งเครื่องบิน 7 ลำไปรับ-ตั้งศูนย์ติดตาม

กระทรวงแรงงาน ช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล
กระทรวงแรงงาน

กระทรวงแรงงานเร่งช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ประสานกองทัพอากาศเตรียมเครื่องบิน 7 ลำไปรับคนไทย โดยมีคนไทยขอกลับประเทศ 1,099 คน พร้อมตั้งศูนย์ติดต่อประสานงาน

วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ติดอยู่ในอิสราเอล จากกรณีเกิดเหตุจรวดโจมตีจากฉนวนกาซาไปยังหลายพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีจำนวนคนไทยในอิสราเอลกว่า 3 หมื่นคน ขอกลับประเทศ 1,099 คน แต่ยังรอแบบสำรวจตอบกลับเพิ่ม เพราะมีคนไทยในอิสราเอลอีกเกือบ 30,000 คน และนอกพื้นที่ 5,000 คน

เตรียมเครื่องบิน 7 ลำ

“ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งเตรียมความพร้อมไปรับคนไทยกลับประเทศ โดยให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินทั้งหมด 7 ลำ และหากไม่พอจะเช่าเหมาลำของภาคเอกชนเพิ่ม และกระทรวงต่างประเทศจะประสานงานเรื่องการบินเข้าน่านฟ้าอิสราเอล และหากน่านฟ้าปิด ต้องไปประเทศใกล้เคียง อย่างจอร์แดน และอียิปต์” นายพิพัฒน์กล่าว

จากรายงานของ นายกิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พบว่ามีพี่น้องแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 ราย ถูกจับเป็นตัวประกันไว้จำนวน 11 ราย และยังมีพี่น้องแรงงานชาวไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อีกเป็นจำนวนมาก

ศูนย์ช่วยเหลือแรงงาน

กระทรวงแรงงานจัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล” ขึ้น เพื่อรับข้อมูลและประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อการเร่งช่วยเหลือ คุ้มครอง ดูแล พี่น้องแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลทุกท่านอย่างรวดเร็วที่สุด

สำหรับพี่น้องแรงงานชาวไทยในประเทศอิสราเอล หรือครอบครัวของพี่น้องแรงงานชาวไทยที่ยังไม่สามารถติดต่อญาติ พี่น้อง ณ ประเทศอิสราเอลได้ในเวลานี้ สามารถติดต่อประสานงานขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 และ 0-2245-6710 ถึง 11 จะมีเจ้าหน้าที่รับประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับแรงงานในอิสราเอลติดต่อได้ที่เบอร์ (+972) 05-4469-3476

นายพิพัฒน์กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทย ที่เปรียบเสมือนฮีโร่ที่ทุ่มเท เสียสละ ทำงานอย่างหนักเพื่อหางรายเลี้ยงครอบครัว และนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศไทย ให้ได้รับความปลอดภัยอย่างรวดเร็วที่สุด

“รัฐบาลไทย ทั้งในส่วนกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุด พรัอมเร่งช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยในการเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย และขอให้พี่น้องแรงงานไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการประเทศอิสราเอลอย่างเคร่งครัด

พร้อมประสานฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เพื่อการวางแผนในการให้ความช่วยเหลือท่านได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ผมขอให้พี่น้องแรงงานชาวไทย ณ ประเทศอิสราเอล ทุกท่าน ปลอดภัยครับ และเราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการนำพี่น้องแรงงานทุกท่านกลับประเทศไทยอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด” นายพิพัฒน์กล่าวท้ายสุด