เมื่อวันที่ 23 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบวรนันท์ ทองกัลยา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและบริหาร บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด กล่าวในเสวนาพิเศษ CSR 360 องศา ในหัวข้อ “รวมใจ…นำไทยยั่งยืน” ซึ่งจัดโดย หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจว่า ปรัชญาธุรกิจขององค์กรคือ ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินงานของธุรกิจ โดยมิตรผลได้เข้าไปช่วยยกระดับเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านโครงการหมู่บ้านเพิ่มผลผลิต ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 9 ตำบล 136 หมู่บ้าน และ 1 ชุมชน
“มิตรผลเดินหน้าพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามองว่าการทำธุรกิจไม่ใช่แค่การหาผลกำไร แต่ต้องคิดด้วยว่าจะยังประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร ซึ่งนอกจากการออกไปพัฒนาคนข้างนอกองค์กรแล้ว เรายังมองถึงคนในองค์กรของเราด้วย เพราะคนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรมีชีวิต และ Productivity ของพนักงานจะทำให้องค์กรเกิดความยั่งยืน” บวรนันท์ระบุ
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
อย่างไรก็ดี Productivity ของพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องทักษะหรือความสามารถในการทำงาน แต่องค์กรต้องมองครอบคลุมถึงเรื่องขวัญและกำลังใจด้วย ซึ่งประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้คือปัญหาหนี้สิน โดยเป็นปัญหาที่มีอยู่ในทุกองค์กร และเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คนขาดกำใจในการทำงาน
“มิตรผลได้จัดทำโครงการปลอดหนี้ ชีวิตมีสุขขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว อันมาจากการสำรวจพนักงานในองค์กรแล้วพบว่า พนักงานของเรามีกลุ่มที่เป็นมนุษย์เงินผ่าน คือ มีสัดส่วนของรายจ่ายเท่ากับรายรับ และไม่มีเงินเก็บ”
ดังนั้น บริษัทจึงจัดตั้งกองทุน 20 ล้านบาทในการจัดการกับภาวะหนี้เสีย เพราะพนักงานเป็นหนี้นอกระบบเยอะมาก โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาขับเคลื่อน ทั้งการแนะนำพนักงานให้มีการวางแผนทางการเงิน การจัดทำบัญชีครัวเรือน การมีโค้ชทางการเงินให้ พร้อมกับมีการติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ บวรนันท์กล่าวทิ้งท้ายว่า “หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของประเทศ คือ การเริ่มต้นที่ตัวพวกเราเอง ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมแล้วค่อยเปลี่ยน ถ้าเราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงตรงนี้เพื่อยั่งยืน ความเป็นประโยชน์ของผู้อื่น ผมว่าเราเริ่มทำกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็ตาม”