เปิดตาดีสู่สังคมไทย มุ่งรักษาตาผู้ด้อยโอกาส

กล่าวกันว่าปัญหาทางสายตามักจะตามมาเมื่อเข้าสู่วัยที่สูงขึ้น แต่จริง ๆ แล้วมีหลากหลายสาเหตุที่อาจจะทำให้โอกาสมองเห็นของคนเราถดถอยลงไป แพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเผยข้อมูลจากการลงพื้นที่โครงการ “เปิดตาดีสู่สังคมไทย” พบ 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สูงวัยไทยเสี่ยงต่อโอกาสตาบอดถาวร หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

“พญ.อุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ” ประธานหน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ปฏิบัติงานตั้งแต่เริ่มโครงการตลอดระยะเวลา 22 ปี สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคตาที่ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารพบว่า สถิติกลุ่มผู้ป่วยโรคตามีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ตามสภาวะการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งยังพบ 5 สาเหตุสำคัญที่อาจส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ซึ่งประกอบด้วย

หนึ่ง เลนส์ตาเสื่อม ต้นเหตุของโรคต้อกระจก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เพราะเลนส์ตาของเราทุกคนจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพตามกาลเวลาของช่วงวัย ซึ่งขั้นตอนการรักษาจะใช้วิธีการผ่าตัดใส่เลนส์ตาเทียม โดยใช้เวลาการผ่าตัด 15-20 นาที พักฟื้นเพียง 2 สัปดาห์ ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สอง ระบบการไหลเวียนของน้ำในลูกตาผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน, ความดัน ทำให้การระบายน้ำออกของลูกตาเกิดการอุดตัน และเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ความดันลูกตาสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนไปทำลายเส้นประสาทตา จนเกิดเป็นต้อหินตามมา ซึ่งวิธีการรักษาจะเป็นการประคับประคองเพื่อไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายมากขึ้น และเพื่อคงการมองเห็นที่มีอยู่ให้นานที่สุด จึงต้องใช้วิธีลดความดันลูกตา

สาม ลม-ฝุ่น-แดด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดโรคตาอย่างต้อเนื้อ ปัญหาโรคตาที่พบมากในกลุ่มคน

ต่างจังหวัดมากกว่าคนในเมืองหลวง ได้แก่ กลุ่มคนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง และต้องเผชิญกับลม ฝุ่น แดด เป็นประจำ โดยเบื้องต้นจะมีอาการระคายเคืองตา มีน้ำตาไหล จนนำไปสู่อาการตาอักเสบ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาหรือป้องกันที่ถูกวิธี จะเกิดเป็นแผ่นเนื้องอกจากตาขาวลามเข้าไปในตาดำ ถ้าเป็นมากจะลามเข้าไปจนถึงกลางตาดำ ปิดรูม่านตาส่งผลให้การมองเห็นลดลงได้

สี่ การขาดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคตาต่าง ๆ โดยคิดว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ หรือไม่เคยสังเกตอาการเบื้องต้นคิดว่าเป็นเพียงอาการปกติของการใช้สายตามากจนเกินไป จึงปล่อยไว้ไม่ตรวจรักษา จนนำไปสู่การเป็นโรคตาต่าง ๆ และเกิดสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในการช่วยเหลือพึ่งพาตนเอง

และสุดท้าย คือ ขาดหมอตา ลงพื้นที่รักษาผู้ป่วยในพื้นที่ที่ห่างไกล เนื่องด้วยจำนวนปริมาณหมอตาที่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งยังขาดงบประมาณในด้านการจัดหาเครื่องมือแพทย์ที่ใช้สำหรับลงพื้นที่รักษา เพราะกลุ่มผู้ป่วยบางรายอยู่ในขั้นวิกฤตเริ่มมองไม่เห็น บางรายอยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาก จึงไม่สามารถเดินทางมาพบหมอในตัวเมืองได้

“พญ.อุไรวัลย์” กล่าวอีกว่า ทั้ง 5 สาเหตุข้างต้นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคตาทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทุกชนชั้น สามารถสูญเสียการมองเห็นได้ หากไม่ได้รับความรู้และการรักษาอย่างทันท่วงที แต่สำหรับกลุ่มคนเมืองที่อยู่ใกล้หมอตาสามารถรักษาได้เร็วกว่ากลุ่มคนพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญ และขาดทุนทรัพย์

ดังนั้น โครงการเปิดตาดีสู่สังคมไทย จึงเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยระดมทุนผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆเพื่อรับการบริจาคจากภาคประชาชนเพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมกับนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนรถจักษุคลินิกเคลื่อนที่ เพื่อนำทีมแพทย์ลงพื้นที่ไปตรวจรักษาผู้ป่วยโรคตาที่ด้อยโอกาสทั่วประเทศไทยให้ได้มากที่สุด เพราะยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่รอการรักษาให้ทันต่อเวลา เนื่องจากการลงพื้นที่และการรักษาในแต่ละปี มีค่าใช้จ่ายสูงถึงปีละกว่า 15 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคสมทบทุนเข้าโครงการเปิดตาดีสู่สังคมไทย สามารถบริจาคได้ที่ www.bigcamera.co.th/beginagain หรือบริจาคผ่านกล่อง “Love Sharing Box” ที่บิ๊ก คาเมร่า กว่า 230 สาขาทั่วประเทศ หรือบริจาคตรงผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-2-62588-8