#ไม่ใช่ฝันไป คอนเสิร์ต “สาว สาว สาว” อบอุ่น อิ่มเอม คุ้มค่าการรอคอย 34 ปี

ไม่ใช่ฝันไปจริง ๆ ที่วันนี้เรามีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตต้นฉบับเกิร์ลกรุ๊ปของเมืองไทยอย่าง “สาว สาว สาว” โดยการสร้างสรรค์ของ เอ-ไทม์ โชวบิส และ เช้นจ์2561 ที่ทำให้ 3 สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปในตำนาน คือ แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, แหม่ม-พัชริดา วัฒนา และ ปุ้ม-อรวรรณ เย็นพูนสุข กลับมารวมตัวกันได้สำเร็จในรอบ 34 ปี และขึ้นคอนเสิร์ตไปถึง 3 รอบเมื่อวันที่ 23, 24 และ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  

คอนเสิร์ตครั้งแรกในรอบ 34 ปีที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเหมือนของขวัญตอบแทนคำขอบคุณที่แฟน ๆ ยังรักและรอคอยมานาน ซึ่งสามสาว แอม-แหม่ม-ปุ้ม ไม่ทำให้แฟน ๆ ที่ตั้งตารอคอยผิดหวัง เพราะยังรักษามาตรฐานเสียงร้องและเพอร์ฟอร์มแมนซ์บนเวทีคอนเสิร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม สมศักดิ์ศรีเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกของเมืองไทย

ใครที่ได้ไปดูคอนเสิร์ตครั้งสำคัญนี้คงจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศงานรวมรุ่นของบรรดาแฟนเพลงรุ่นใหญ่ ที่พร้อมใจกันแต่งตัวเป็นสาวสาวสาวกันมาเต็มที่

คอนเสิร์ตนี้มีบรรดาผู้ใหญ่ใจดีทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จของสาวสาวสาวในยุคนั้นมาอยู่ในคอนเสิร์ตมากมาย อาทิ ระย้า พงษ์ธนานิกร ผู้ก่อตั้งค่ายรถไฟดนตรี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวงสาวสาวสาว, บุญชาย ศิริโภคทรัพย์ แห่งรายการโลกดนตรี, ชรัส เฟื่องอารมณ์ และ วินัย วิษณุกร ในฐานะผู้แต่งเพลงฮิตให้สาวสาวสาวหลายต่อหลายเพลง แฟนคลับจากต่างประเทศที่บินข้ามซีกโลกเพี่อมาดูคอนเสิร์ต รวมถึงบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการที่มาให้กำลังใจกันล้นงาน และคอนเสิร์ตนี้ยังมอบรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อร่วมสมทบทุนในการสร้างธรรมาศรม ของเสถียรธรรมสถาน อีกด้วย

คอนเสิร์ตเปิดเวทีสุดยิ่งใหญ่เหมือนได้ย้อนกลับไปในยุค 80s แอม-แหม่ม-ปุ้มก้าวขาขึ้นเวทีในชุดกระโปรงบานย้อนวัยหวานที่มีซิกเนเจอร์โบใหญ่เกินหัว ซึ่งเป็นภาพจำตลอดกาลของวง พร้อมทัพแดนเซอร์ตัวน้อยหลายสิบชีวิตออกมาต้อนรับคนดู พร้อมเพลงฮิตที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง ประตูใจ และ รักคือฝันไป เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้กระหึ่มพารากอน ฮอลล์ จนทั้ง 3 คนต้องเอ่ยปากบอกแฟน ๆ ที่กรี๊ดไม่หยุดว่า “ยิ่งกว่าฝันไปจริง ๆ ที่ในที่สุดก็มีวันนี้ ที่พวกเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง”

จากนั้นสาวสาวสาวก็พาทุกคนย้อนเวลาไปกับบทเพลงจากทั้ง 10 อัลบั้มที่จัดมาเป็นเซตให้ฟังกันแบบจุใจ ไล่เรียงกันเล่าเรื่องราวของสาวสาวสาวไปทีละเซ็ททีละอัลบั้ม เริ่มจากอัลบั้มแรก รักปักใจ กับเพลง แพะยิ้ม เพลงดังที่แจ้งเกิดให้แหม่มน้องเล็กของวง ต่อเนื่องกับเมดเลย์เพลงช้าชุดแรก อย่าง อยากลืม, ขอเพียงสัญญา, มิอาจรัก, ด้วยแรงแห่งรัก

ต่อด้วยเซตเพลงจากอัลบั้ม เป็นแฟนกันได้ยังไง ซึ่งเป็นอีกอัลบั้มที่สาวสาวสาวประสบความสำเร็จมากที่สุด ถัดจากอัลบั้ม ประตูใจ  ด้วยการเนรมิตรฉากเวทีให้กลายเป็นรายการ “โลกดนตรี” ที่โด่งดังในยุคนั้นที่สาวสาวสาวเคยสร้างปรากฏการณ์ห้องส่งแตก (เพราะแฟน ๆ แห่กันเข้าไปดูคอนเสิร์ต) กลับมาให้หายคิดถึง ครั้งนี้บรรดาโอชิในยุคนั้นเลยยอมเผยตัว ฝากวีทีอาร์มาสารภาพความในใจว่าใครโอชิใครมาให้ดูกันในงาน

จากนั้นดึงอารมณ์ซึ้งกันต่อกับเซตเพลงที่แอมแต่งให้สมาชิกวงร้อง อย่าง เพียงเพราะว่า, ฟ้ากว้างทางไกล, ไม่มีเธอ ต่อเนื่องกับเซตเพลงรักชวนอินไปกับเนื้อร้องอย่างเพลง หาคนร่วมฝัน, ภาพฝัน, Telephone, รักโกหก ก่อนเร่งจังหวะความสนุกในเพลง ในวัยเรียน ซีนนี้แอม-แหม่ม-ปุ้มเปลี่ยนลุกกระชากวัยใส่ชุดนักเรียนวัยใสออกมาได้น่ารัก แถมแอมยอมสวมวิกผมบ๊อบดูแล้วเหมือย้อนเวลากลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้วทีเดียว

ตามมาด้วยเซตเพลงจากอัลบั้ม แมกไม้และสายธาร ซีนนี้เปลี่ยนทั้งเวทีให้กลายเป็นทุ่งหญ้าในพริบตา ย้อมฉากหลังให้เป็นท้องฟ้าแสงอบอุ่น ชวนคนดูร้องเพลงฮิตจังหวะโฟคซองแนวถนัดไปด้วยกัน อย่างเพลง คืนใจ, ทุ่งอ้อ, อยากมีรัก, บทเพลงชีวิต

ต่อด้วยเซตเมดเลย์เพลงสากลที่ไม่หยิบมาร้องไม่ได้อย่างเพลง Because I love you, When we make a home, Helplessly hoping, Hey Mickey ต่อด้วยอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ถูกหยิบมาเล่าบนเวทีนี้ คือ การจำลองบรรยากาศงาน Tokyo Music Festival อีกหนึ่งความภูมิใจในประวัติศาสตร์ที่สาวสาวสาวได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงานในตอนนั้น ซีนนี้เรียกมาทั้งฉากทั้งคอสตูมรวมทั้งท่าเต้น เป๊ะซะจนเล่นเอาคนดูได้กรี๊ดสนั่นกันไปอีกรอบ

ยังไม่จบ… จากนั้นถึงคิวแยกเดี่ยวออกมาร้องเพลงของตัวเองพร้อมแขกรับเชิญของแต่ละคน ปุ้ม เปิดตัวคนแรกในเพลง ป่านนี้ ก่อนเปิดตัวแขกรับเชิญน้องรักตระกูลลีลา ตั๊ก ศิริพร มาร้องเพลง ฉันไม่ใช่นางเอก ด้วยกัน บอกเลยว่าคนดูกรี๊ดกันสุด ๆ เพราะนี่คือครั้งแรกที่พี่น้องตระกูลลีลาได้ร้องเพลงด้วยกันบนเวทีคอนเสิร์ต

ตามด้วยแหม่ม ร้องเพลง ทิ้ง เพลงสร้างชื่อในฐานะศิลปินเดี่ยว ก่อนชวนแขกรับเชิญที่แหม่มแอบแซวแฟน ๆ ว่ากรี๊ดแขกรับเชิญมากกว่าสาวสาวสาวเสียอีก นั่นก็คือสองลูกศิษย์จากค่ายอาร์เอส แดน วรเวช และ บีม กวี (แดน, บีม-ดีทูบี) ที่มาสร้างสีสันบนเวทีในเพลง แปลกดีนะ และ ติ๊กต่อก

ก่อนส่งต่อให้แอมควงสองน้องรัก อ๊อฟ ปองศักดิ์ และ เบน ชลาทิศ ออกมาพ่นไฟใส่กันในเพลง กดดัน และตบท้ายด้วยเพลงท่าเต้นน่ารัก อย่าง คุ้กกี้เสี่ยงทาย

แล้วก็มาถึงช่วงท้าย ตามธรรมเนียมคอนเสิร์ตที่ต้องปิดท้ายด้วยความสนุก แอม-แหม่ม-ปุ้ม ชวนคนดูลุกจากเก้าอี้มาเต้นด้วยกันกับเมดเลย์เพลงฮิตที่จัดให้คนดูสนุกส่งท้ายกันอีกครั้ง ในเพลง ประตูใจ, รักคือฝันไป, เป็นแฟนกันได้ยังไง, Thank You และ ดอกไม้ของน้ำใจ เพลงความหมายดีที่มอบให้กับแฟน ๆ ทุกคนแทนคำขอบคุณและตอบแทนความคิดถึงที่ทุกคนมีให้ตลอดมา

…ปิดฉากคอนเสิร์ตกันไปอย่างอบอุ่น อิ่มเอมใจ คุ้มค่าการรอยคอยนาน 3 ทศวรรษ