ส่องวัฒนธรรมอาหารสไตล์ฝรั่งเศสในเทศกาลคริสต์มาส ก่อนเดินงาน “บงชู เฟรนช์ แฟร์ 2017”

กลับมาอีกครั้งสำหรับงาน “บงชู เฟรนช์ แฟร์” มหกรรมแสดงสินค้าฝรั่งเศสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ปี 2017 นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 14-17 ธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ชื่อธีม Oh La La Christmas Market (โอ ลั้ล ล้า คริสต์มาส มาร์เก็ต)

แต่ก่อนจะถึงงานจริง “ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” พาผู้อ่านมารู้จัก “วัฒนธรรมคริสต์มาสสไตล์ฝรั่งเศส” ไม่ว่าจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ รวมไปทั้งอาหารสุดพิถีพิถันบนโต๊ะดินเนอร์ในเทศกาลคริสต์มาส หรือที่ฝรั่งเศสเรียกว่า เทศกาล Noël (โนแอล) ในงานแถลงข่าวการจัดงาน ที่จำลองบรรยากาศคริสต์มาสมาอย่างอบอุ่น

“สุกัญญา เอื้อชูชัย” ผู้อำนวยการหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย หนึ่งในผู้จัดงาน เล่าให้ฟังว่า วันคริสต์มาสแต่เดิมเป็นเรื่องศาสนา คือเป็นวันที่เฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู แต่อย่างที่ทราบว่าหลังๆ ในประเทศตะวันตกอาจจะไม่ได้นับถือในเรื่องของศาสนาเท่าใดนัก คริสต์มาสในปัจจุบันจึงยังเป็นประเพณีหรือธรรมเนียมที่ครอบครัวจะได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งจะเหมือนกันทั้งในฝั่งยุโรปและอเมริกา

“หากพูดถึงช่วงคริสต์มาสในฝรั่งเศสแล้ว สิ่งที่แตกต่างจากฝั่งอเมริกา คือ บ้านที่เป็นคาทอลิก ในวันคริสต์มาสอีฟ หรือวันที่ 24 ธันวาคม จะมีการกินอาหารเย็นกัน มีการเลี้ยงฉลองกันในครอบครัว และแกะของขวัญ จากนั้นในตอนกลางคืนจะไปร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์ตอนเที่ยงคืน ส่วนฝั่งอเมริกานั้น ที่คล้ายกันคือมีการกินอาหารเย็นด้วยกัน แต่ด้วยความที่คนอเมริกันส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน นอกจากจะไปโบสถ์ ก็จะมีคณะร้องเพลงไปร้องเพลงตามบ้าน มีการรอซานตาคลอส หลังจากนั้นในเช้าวันที่ 26 ธ.ค. ซึ่งเป็นวัน Boxing Day ก็จะมีการแกะของขวัญที่ในตอนแรกวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาส” สุกัญญาระบุ

สิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟของชาวฝรั่งเศสก็คือ “อาหาร” ที่เหล่าคุณแม่ หรือคุณย่า คุณยาย จะตั้งใจทำเมนูเฉพาะ หรือเมนูท้องถิ่น พร้อมงัดสูตรเด็ดเคล็ดลับมาปรุงมื้อค่ำในวันสำคัญนี้

เริ่มด้วยจานแรกที่เป็นจานหลักของทุกครอบครัวอย่าง “ไก่” ที่มักนิยมใช้ไก่งวง แต่บางบ้านก็ไม่นิยม และใช้ไก่อย่างอื่นแทน โดยจะนำไก่มายัดไส้ที่มีเครื่องเทศและส่วนประกอบอื่นๆ ตามสูตรเด็ดของแต่ละบ้าน ล้อมรอบด้วยมันฝรั่งอบ

จานถัดมาคือเมนู Plateau de fruits de mer (ปลาโต เดอ ฟรุยส์ เดอ แมร์) เป็นอาหารทะเลที่กินแบบเย็น ประกอบไปด้วยกุ้ง ล็อบสเตอร์ หอยนางรม หอยแมลงภู่ หรือหอยอื่นๆ ตามชอบ วางอยู่บนน้ำแข็ง กินคู่กับซอสสูตรพิเศษ 2 ชนิด คือ มายองเนสสไตล์ฝรั่งเศส (French Mayonnaise Sauce) ที่ทำจากไข่แดง น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู มัสตาร์ด ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ส่วนอีกซอสหนึ่งคือ ซอสหอมแดง (Shallot Sauce) ที่มีส่วนประกอบของหอมแดง ไวน์แดง และแคร็มแฟรช (Crème Fraîche)

อีกเมนูท้องถิ่นที่นิยมทำในช่วงคริสต์มาสก็คือ Tartiflette (ตาร์ติแฟล็ต) เป็นเมนูที่ปรุงจากเบคอนผัดกับหอมหัวใหญ่ ปรุงด้วยไวน์ขาวและใบไธม์ ก่อนจะนำมาวางพร้อมกับมันฝรั่งต้ม และชีสเรอโบลชง (Reblochon) ชีสที่ทำจากนมวัวของแคว้นซาวัว (Savoie) ในเขตเทือกเขาแอลป์ จากนั้นอบในเตาอบ 180 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที

อาหารเฉพาะอีกอย่างหนึ่งคือ เกาลัดเชื่อม ที่จะใช้เกาลัดลูกใหญ่นำมาเชื่อมจนขึ้นเกล็ดน้ำตาล และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชีส แฮม ไส้กรอก ซึ่งเป็นไส้กรอกแบบแห้ง ไม่เหมือนไส้กรอกเยอรมัน

นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษก็คือ เค้กขอนไม้ (Buche de Noel) ที่จะกินเฉพาะวันคริสต์มาสเท่านั้น ส่วนเครื่องดื่มปกติแล้วจะเป็นไวน์ แต่ช่วงคริสต์มาสมีอากาศหนาว ทำให้จะนิยมดื่ม ไวน์ร้อน หรือ mulled wine (มัลด์ ไวน์) ที่นำไวน์แดงมาปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง มะนาว ส้ม และเครื่องเทศนานาชนิด เช่น กานพลู อบเชย และ anis étoile (โป๊ยกั๊ก) แล้วนำมาต้มให้พอร้อน แต่ไม่ให้เดือดหรือแตกฟอง

“จะเห็นได้ว่าอาหารฝรั่งเศสเป็นอาหารที่มีคุณภาพ มีวิธีการกินที่มีการบาลานซ์กัน เวลาเราจัดงานบงชู เฟรนช์ แฟร์ ก็อยากให้คนได้มาเห็นคุณภาพ การเลือกสรรส่วนผสม การตกแต่งจาน ที่มีการประดิดประดอยอย่างน่าสนใจ แถมยังเป็นอาหารที่หลายรสชาติเหมือนอาหารไทยอีกด้วย” สุกัญญากล่าว

สุกัญญากล่าวอีกว่า ไฮไลต์เด็ดของงานคือธีมเป็นคริสต์มาส จึงจำลองบรรยากาศคริสต์มาส มาร์เก็ต เหมือนที่ในฝรั่งเศสหรือยุโรปมักจะจัดงานออกร้านเหมือนตลาดนัดในฤดูหนาว คนจะออกมาช้อปปิ้ง นอกจากนี้ยังมีร้านบิสโทรปรุงอาหารสดๆ ให้คนที่มางานได้ชิม ขณะเดียวกันแต่ละบูทยังนำสินค้าที่เน้นในเรื่องของคริสต์มาสมาให้ทุกคนได้มาเลือกซื้ออีกด้วย

สุกัญญา เอื้อชูชัย และ โทม่า ซานเชส

ด้าน “โทม่า ซานเชส” รองประธานหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย กล่าวว่า งานบงชู เฟรนช์ แฟร์ เป็นงานที่หอการค้าฯจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 แล้ว ภายในงานยังคงจัดเต็มเหมือนเคยไม่ว่าจะเป็นสินค้า อาหาร เช่น ชีส, แฮม, ขนมปัง, ตับห่าน, ไวน์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัฒนธรรมและเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยม อาทิ น้ำหอม, เครื่องประดับ, ของตกแต่งบ้าน ส่งตรงจากฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น อิตาลี, เยอรมนี, สเปน รวมแล้วกว่า 93 บูท

“ขณะเดียวกัน เนื่องจากธีมงานปีนี้เป็นธีมคริสต์มาส ซึ่งชาวฝรั่งเศสถือว่าเป็นเทศกาลแห่งการให้หรือมอบสิ่งของดีๆ คืนแก่สังคม ดังนั้นงานบงชู เฟรนช์ แฟร์ ปีนี้ หอการค้าฯจึงจัดโซนแห่งการให้ โดยเปิดรับของบริจาคสำหรับเด็ก อาทิ อุปกรณ์เครื่องเขียน, หนังสือเด็ก, กระดาษทิชชู่, สบู่, แป้งเด็ก ฯลฯ เพื่อมอบให้กับมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก เพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศไทยต่อไป” โทม่ากล่าว

สำหรับงาน “บงชู เฟรนช์ แฟร์ 2017” จะจัดขึ้นในวันที่ 14-17 ธันวาคม เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องบอลรูม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์