ทีมขุดทองแคนาดาตะลึง ตักดินขุดหาสมบัติ แต่ไปเจอซากช้างน้อย แมมมอธ ดึกดำบรรพ์ เหมือนนอนหลับพริ้มอยู่ นักวิทยาศาสตร์มาตรวจดู ตะลึงสภาพที่สมบูรณ์มาก ทั้งที่อายุราว 3 หมื่นปี
วันที่ 28 มิถุนายน 2565 เดอะการ์เดียน รายงานการค้นพบซากลูกช้างแมมมอธขนยาว (woolly mammoth) เพศเมีย อายุเก่าแก่กว่า 30,000 ปีที่ดินแดนยูคอน (Yukon) ทางตะวันตกของประเทศแคนาดา สภาพสมบูรณ์มากเหมือนว่ามันแค่หลับอยู่
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ผู้ค้นพบซากสัตว์ดึกดำบรรพ์สามหมื่นปี คือ คนงานหนุ่มของเหมืองทอง Treadstone Mining ที่ยูเรกา ครีก ทางใต้ของเมืองดอว์สัน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ชายหนุ่มบังคับรถตักดินขุดลงไปและไปติดอะไรบางอย่าง จึงไปตามหัวหน้างาน ชื่อ ไบรอัน แมคคัฟแฮน มาดูในทันที
เมื่อหัวหน้างานมาถึงและเห็นร่องรอยสิ่งที่พบ จึงสั่งหยุดงานบริเวณดังกล่าวทันที พร้อมถ่ายภาพส่งไปให้นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญในครึ่งชั่วโมงต่อมา
จากนั้นทีมนักวิทยาศาสตร์เดินทางมาตรวจสอบพร้อมกับคนงาน ทุกคนต่างตกตะลึงที่เห็นโครงร่างและผิวหนังเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เสมือนกับว่ามันยังมีชีวิตอยู่ มีขนและร่องรอยขีดข่วนที่เท้าปรากฏให้เห็นชัดเจน
ดร.แกรนต์ ซูซูลา นักบรรพชีวินวิทยา กล่าวว่า จังหวะการค้นพบของหนุ่มคนงานเหมืองเกิดขึ้นได้ครั้งเดียวในชีวิต เป็นกรค้นพบด้านบรรพชีวินวิทยาที่สำคัญที่สุดในอเมริกาเหนือ
“เธอมีงวง เธอมีหาง เธอมีหูเล็กๆ เธอมีตัวจับที่ปลายงวงไว้สำหรับกินหญ้า เธอสมบูรณ์แบบ และสวยงาม” ดร.ซูซูลากล่าวถึงซากที่พบ
การที่ซากสมบูรณ์ขนาดนี้เพราะอยู่ที่ใต้ชั้นดินเยือกแข็งคงตัวหรือเพอร์มาฟรอสต์ (permafrost) จึงช่วยรักษาร่างของมันไว้ไม่ให้เน่าเปื่อย
ขนาดใกล้กับตัวที่พบในไซบีเรีย
ต่อมานักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อลูกแมมมอธว่า “นุนโชกา” (Nun Cho Ga) เป็นภาษาของชนพื้นเมืองแถบยูคอน แปลว่า “ลูกสัตว์ตัวใหญ่” และกล่าวว่ามันมีขนาดตัวพอ ๆ กับ “ลยูบา” (Lyuba) ซากลูกแมมมอธขนยาวอายุ 42,000 ปี ซึ่งค้นพบที่ไซบีเรียเมื่อปี 2007 (พ.ศ.2550)
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม็กมาสเตอร์ที่เผยแพร่เมื่อปี 2021 วิเคราะห์ดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตโบราณที่หลงเหลืออยู่ในชั้นดินเยือกแข็งคงตัว พบว่าแมมมอธขนยาวมีชีวิตอยู่ร่วมสมัยกับม้าป่า สิงโตถ้ำ และควายไบซันยักษ์ ในทุ่งหญ้าสเตปป์ของภูมิภาคยูคอนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง
จนกระทั่งสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 5,000 ปีก่อน โดยสาเหตุนั้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่เพราะถูกมนุษย์ไล่ล่าจนสูญพันธุ์แต่อย่างใด
ยังไม่มีใครคืนชีพแมมมอธได้
บีบีซี รายงานว่า แมมมอธขนยาวตัวผู้มีความสูงราว 3.5 เมตร ส่วนตัวเมียเตี้ยกว่าเล็กน้อย งาที่โค้งงอนของมันมีความยาวสูงสุดถึง 5 เมตร ส่วนขนหนาใต้ท้องที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น มีความยาวได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมันมีใบหูเล็กกว่าช้างในปัจจุบันมากและมีหางสั้น เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน
เนื่องจากแมมมอธมีพันธุกรรมใกล้เคียงกับช้างในปัจจุบันมาก โดยมีดีเอ็นเอที่เหมือนกันถึง 99.4% นักวิทยาศาสตร์หลายคณะจึงมีความคิดที่จะทำให้พวกมันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้เทคนิคการโคลนหรือดัดแปลงพันธุกรรมหลากหลายวิธี แต่ยังไม่มีผู้ใดทำได้สำเร็จ
……….