ไขข้อกฎหมาย…แบบเข้าใจง่าย ตัวละคร “เลือดข้นคนจาง” ใครโดนข้อหาอะไรบ้าง !?

เลือดข้นคนจาง
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระเเส “เลือดข้นคนจาง” ที่ฮอตจนติดท็อปเทรนด์ตามสื่อโซเชียลช่วงเวลาที่ละครออนเเอร์ เเม้ว่ายอดเรตติ้งคนดูสด จะสวนทางยอดคนดูย้อนหลัง เเต่การตามหาข้อเท็จจริงว่าทำไมฆาตกรตัวจริงที่ลั่นไกยิง “ประเสิรฐ” ถึงทำเช่นนั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงของเหล่าชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ เเละต้องคอยลุ้นกันต่อในละครที่เหลืออีกเพียง 2 ตอนก็จะอวสาน

 

ก่อนหน้านี้นักสืบประจำโซเชียลต่างออกมาโพสต์ถึงความเป็นไปได้ของตัวละครต่าง ๆ ที่อาจเป็นคนยิง “กู๋เสิรฐ” ไล่เรียงไทม์ไลน์สถานการณ์ออกมาเป็นฉาก ๆ ซึ่ง “พี่ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์” ผู้กำกับละครเรื่องนี้เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีการเปลี่ยนเนื้อเรื่องการถ่ายทำเเทบทุกตอน เรื่องจึงพีคแล้วพีคอีก ชนิดที่ว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเลยทีเดียว

ละครดำเนินมาถึงช่วงที่ตำรวจจับ “เต้ย” เข้าคุกไปเสียเเล้ว พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่าประเสิรฐ ส่วนฆาตกรตัวจริงพร้อมลูกสาวอย่าง “กู๋เมธ-เหม่เหม” บินหนีออกนอกประเทศหวังมาเริ่มต้นใหม่ที่ฮ่องกง เเละยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่กระทำความผิด “ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” พาไปไขข้อสงสัยอีกมุมหนึ่ง หากจับกู๋เมธได้เเล้ว ใครบ้างที่จะมีความผิดทางกฎหมาย

ว่าที่ ร.ต. ทินกฤต สาตรรอด อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ข้อมูลทางกฎหมายถึงความผิดของตัวละครเเต่ละตัวที่มีส่วนในคดี “ใครฆ่าประเสิรฐ” ไว้ว่า เริ่มต้นด้วยฆาตกรตัวจริงที่ลั่นไกใส่ประเสิรฐ อย่าง “เมธ” ที่ทำผิดฐานฆ่ากู๋เสริฐตายโดยเจตนา ตาม ป.อาญา 288 โดยบันดาลโทสะ (โทสะเกิดเมื่อถูกพูดตอกย้ำข่มเหงจิตใจในขณะกำลังเสียใจอย่างหนักและได้คว้าปืนที่อยู่ที่อยู่บนเตียงยิงไปยังกู๋เสริฐทันที)

และฐานพยายามฆ่ากิ๋มคริสแต่การกระทำไม่สามารถบรรลุผลอย่างแน่แท้ ตามมาตรา 288, 81 (เพราะแม้ได้จ้องเล็งปืนไปแล้ว แต่ปืนไม่มีกระสุน) และมีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวตามมาตรา 392

อีกทั้งฉากกู๋เมธพยายามยิงปืนกรอกปากตนเองเพื่อฆ่าตัวตายนั้น ดีที่ปืนของอี้ไม่มีกระสุน เพราะถ้ากู๋เมธฆ่าตัวตายสำเร็จจะถือว่าเป็นกรณีผู้กระทำความผิดตายตามป.วิ.อาญามาตรา 39(1) สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะระงับไปทันที ถือว่าอัยการไม่มีอำนาจฟ้องนับแต่นั้น คดีจบ game over

มาต่อกันที่ “กิ๋มคริส” ภรรยาของประเสิรฐ เเม้ไม่ใช่คนฆ่าเเต่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เป็นอันตรายแก่กายสาหัสตาม ป.อาญามาตรา 297(5) (การให้กินยาพิษคือทำร้าย ผลสาหัสคือแท้งลูก) และมีความผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นไม่ยินยอมตามมาตรา 303 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 90 แต่คดีน่าจะขาดอายุความแล้ว สิทธินำดีอาญามาฟ้องจึงระงับตาม ป.วิอาญา มาตรา 39(6)

นอกจากนี้กิ๋มคริสยังผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ทนายปลอมพินัยกรรมกู๋เสริฐตาม ป.อาญามาตรา 266 ประกอบมาตรา 84 อีกด้วยด้วย

ส่วนบุคคลที่ทำตัวเป็นนักสืบปีนเข้าบ้านฆาตกรเเล้วออกมาปรากฎตัวถามเจ้าของบ้านกันสุดโต่ง ยังไม่รวมวีรกรรมอื่น ๆ ของ “อี้” อีกตัวละครที่แฟนคลับลุ้นตัวโก่งว่าจะมีชีวิตรอดไปถึงวันหาฆาตกรตัวจริงเจอหรือไม่นั้น

ว่าที่ ร.ต. ทินกฤต ระบุว่า อี้ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของกู๋เมธในฐานพยายามฆ่ากิ๋มคริสเพราะรู้อยู่แล้วว่าปืนไม่มีลูกจึงขาดองค์ประกอบภายใน แต่ผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวตามป.อาญามาตรา 392 ประกอบมาตรา 86 ผิดฐานบุกรุกบ้านพีทและบ้านกู๋เมธตาม มาตรา 364 และการเอาสมุดบันทึกเล่มแดงไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามมาตรา 336(8) ด้วย

ส่วนของการกระทำความผิดในฮ่องกง แม้การกระทำความผิดจะเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรแต่ผู้กระทำความผิดเป็นคนไทยศาลไทยมีอำนาจลงโทษได้เฉพาะกู๋เมธฐานพยายามฆ่าคริสเท่านั้น ฐานทำให้ตกใจกลัวลงโทษไม่ได้เพราะเป็นความผิดลหุโทษและลงโทษอี้ผู้สนับสนุนไม่ได้ด้วยเช่นกัน

สรุปว่า อี้ผิดบุกรุก และสนับสนุนกู๋เมธฐานทำให้ตกใจกลัว แต่ศาลลงโทษกรณีหลังไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจลงโทษการกระทำนอกราชอาณาจักรไว้ในกรณีดังกล่าว

อีกตัวละครเจ้าของวลีเด็ด “ฮะ อะไรนะคะ เต้ยพูดอย่างนั้นหรอ กู๋เสิรฐไม่เคยข่มขืนหนูนะคะ” ทำเอาคนดูอินจัดอย่าง “เหม่เหม” มีความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย เพื่อแกล้งให้เต้ยต้องรับผิดทางอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 172 ประกอบมาตรา 174 และมีความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพยานหลักฐาน(ฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิด)เพื่อช่วยกู๋เมธมิให้ต้องรับโทษ ตาม ป.อาญา มาตรา 184

มาถึงพ่อหนุ่มน้อยใจร้อนอย่าง “เต้ย” ล่าสุดมีฉากติดตาเเฟน ๆ เมื่อเเม่ไปเยี่ยมเเล้วเต้ยออกมาทั้งใบหน้าฟกช้ำ เจ้าตัวเล่าถึงสาเหตุที่ถูกซ้อมในคุกว่า “พวกมันหาว่าเต้ยกวน…มัน จะทำไงได้ เกิดมาหน้าตาก็เป็นอย่างนี้เเล้ว”

ทั้งนี้เต้ยมีความผิดฐานบุกรุกบ้านกู๋เมธ ตามป.อาญา มาตรา 364 และการตั้งกล้องแอบถ่ายเป็นความผิดฐานอนาจารเหม่เหมตามมาตรา 278 ทั้งการเอาปืนไปทิ้งน้ำเป็นความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยมิให้ผู้กระทำผิดต้องรับโทษ ตาม ป.อาญา มาตรา 184 ด้วย

ม้าของสี่ยอดกุมาร “ภัสสร” ที่เล่าความในใจให้กับสามีฟังถึงสาเหตุเเท้จริงที่เปลี่ยนกางเกง เนื่องจากเห็นพี่ชายถูกยิงเเต่อารมณ์น้อยใจจากเหตุการณ์ขัดเเย้งก่อนหน้าทำให้เธอไม่ไม่ช่วยกู๋เสิรฐ

ภัสสรถือว่ามีความผิดฐานละเว้นไม่ช่วยกู๋เสริฐผู้ตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ตาม ป.อาญา มาตรา 374

ส่วน “เอิร์น” ลูกชายภัสสรที่ช่วยเเม่ด้วยการเก็บกางเกงที่เปื้อนเลือดกู๋เสิรฐเอาไว้นั้น มีความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพยานหลักฐาน (กางเกงของภัสสร) เพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ ตาม ป.อ.มาตรา 184

ไม่พูดถึงอีกคนคงไม่ได้ เพราะฉากล่าสุดสถานการณ์ยังคงคลุมเครือว่า “อาม่า” มีส่วนรู้เห็นกับการวางยาพิษให้เเก่ภรรยาของกู๋เมธจนเเท้งลูกหรือไม่นั้น เนื่องจากข้อเท็จจริงมันยังไม่ชัดเจน กรณี 1 ถ้าอาม่ากับคริสเอายาพิษไปให้โดยคริสรู้และร่วมมือร่วมใจสมคบคิดกับอาม่า อาม่ากับคริสเป็นตัวการร่วมกันกระทำผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูก 2 แต่ถ้าคริสไม่รู้และถูกอาม่าหลอกให้เอายาพิษไปให้กินโดยหลอกว่าเป็นยาบำรุง คริสจะ ไม่ผิดอะไรเลย แต่อาม่าจะถือว่าเป็นผู้กระทำผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูกตามมาตรา 303 ด้วยตัวเองโดยอ้อม 3. ถ้าตอนแรกคริสไม่อยากทำ แต่อาม่าบังคับ ขู่เข็ญ หรือยุยงให้คริสทำ อาม่าจะมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ต้องร่วมรับผิดกับคริสฐานทำให้หญิงแท้งลูกตามมาตรา 303

ทั้งนี้ต้องดูข้อเท็จจริงที่เป็นเนื้อหาในละครก่อน เพราะไม่รู้ว่าอาม่ากับคริสร่วมมือกันหรือเปล่า แต่ยังไงก็ตาม คดีน่าจะขาดอายุความไปหมดแล้วอาม่าไม่ต้องรับผิดอะไร เพราะอายุความทางอาญายาวที่สุด 20 ปี แต่พีทก็อายุ 20 แล้วพอดี

มาถึงตัวละครสุดท้ายที่เปิดเรื่องมาด้วยนิสัยรักความถูกต้อง เเต่จากการเเนะนำตัวละครที่บอกไว้ตอนท้ายว่า “เวกัส” ผู้รักความถูกต้องนั้น ในบางครั้งก็อาจไม่ใช่ นอกจากจะพูดหว่านล้อมเพื่อให้อี้ไม่คิดว่ากู๋เมธเป็นคนฆ่ากู๋เสิรฐเเล้วนั้น เวกัสยังเป็นคนกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสเเล้วไม่นำส่งตำรวจอีกด้วย

ซึ่งเวกัสมีความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งพยานหลักฐาน(ฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิด)เพื่อช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ ตาม ป.อ.มาตรา 184 นั้นเอง

ส่วนจุดจบของละครที่ใกล้จะอวสานกันเต็มที่จะเป็นอย่างไรนั้น เเฟน ๆ อย่าลืมติดตามทางช่องวัน ทุกคืนวันศุกร์เเละเสาร์ ไปรอลุ้นกันว่าเรื่องราวจะมีจุดพีคได้มากกว่านี้อีกหรือไม่ ตัวละครเเต่ละตัวจะได้รับโทษอย่างไรนั้น

น่าติดตาม…