ธุรกิจท่องเที่ยว

ต่างชาติไม่ถึงเป้า-งบฯไม่ออก โจทย์ใหญ่ “เที่ยวไทย” ปี’67

ต่างชาติ
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า
[email protected]

ครึ่งปีแรก 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 12.14 ล้านคน คาดว่าทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 25 ล้านคน และมีรายได้รวมทั้งปีที่ 2.38 ล้านล้านบาท

วันนี้เดือนกรกฎาคมประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 14 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว ทุกฝ่ายจึงเชื่อมั่นว่าเป้าหมายนี้เป็นไปได้แน่นอน

ส่วนปีหน้า 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ ว่าทุกอย่างจะกลับมาได้เท่าปี 2562 คือมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน และมีรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท

แต่ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. และ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ว่าที่ผู้ว่าการ ททท. คนใหม่ประกาศการดำเนินงานปี 2567 มีเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 35 ล้านคน สร้างรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท

เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นกลับมาเป็นสัดส่วน 87.5% ขณะที่รายได้ฟื้นตัว 94%

หากต้องการดันรายได้รวมให้ถึง 3 ล้านล้านบาทต้องเร่งบูสต์ตลาดเที่ยวในประเทศ ให้มีจำนวนผู้เดินทางมากขึ้นและมีการใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อมาชดเชยรายได้จากตลาดต่างประเทศที่ยังไม่กลับมา 100%

ขณะที่การท่องเที่ยวยังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงสายการบินต่าง ๆ ที่คาดกันว่ากว่าจะกลับมาได้เท่าก่อนโควิดก็น่าประมาณปลายปี

ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อมู้ดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งสิ้น

เมื่อโจทย์ในปี 2567 การท่องเที่ยวไทยต้องพึ่งพารายได้จากตลาดในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทยมากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะสถานการณ์ภายในประเทศเองก็ใช่ว่าจะดี

คำถามคือ จะกระตุ้นให้คนไทยออกท่องเที่ยวอย่างไร ?

“ชำนาญ ศรีสวัสดิ์” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยในวันนี้ยังคงอยู่ในช่วงกำลังทยอยฟื้นตัว และมีความจำเป็นต้องใช้ “งบประมาณ” สำหรับขับเคลื่อน

โดยในไตรมาส 3/2566 พบว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีมาตรการรัฐออกมาช่วยกระตุ้น ทำให้การฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น แถมยังทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสให้กับประเทศคู่แข่งอีกด้วย

นี่ยังไม่รวมปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อ

หากกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า และเกิดการชุมนุมประท้วงอาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในภาพรวมในช่วงที่เหลือของปีนี้ และส่งโมเมนตัมไปถึงปี 2567 แน่นอน

ที่สำคัญวันนี้งบประมาณปี 2567 ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ก็ยังไม่มีความชัดเจน หากงบประมาณที่ขอไปไม่เป็นตามเป้า “ท่องเที่ยว” จะเดินต่ออย่างไร

เรื่องนี้น่าคิดนะคะ