เปิดแล้ว! “สมุย พลัส” ชูจุดขายเที่ยว 3 เกาะ คาดเดือนแรกรายได้ 180 ล้าน

เดินหน้าเปิดสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่ารับนักทอ่งเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โมเดล “สมุย พลัส” เผย 7 วันแรกนักท่องเที่ยวต้องพักในโรงแรม Samui Extra Plus Hotels ระดับมาตรฐาน AQ บนเกาะสมุยเท่านั้น ส่วนพะงัน-เกาะเต่าต้องรอหลังวันที่ 8 เป็นต้นไป คาดเดือนแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,000 คน สร้างรายได้ 180 ล้านบาท

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการให้เปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน โดยทยอยเปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อมก่อน และได้เริ่มดำเนินการที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก ภายใต้โครงการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต หรือ Phuket Sandbox เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ พื้นที่เป็นเป้าหมายลำดับถัดไปคือ สุราษฎร์ธานี เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ซึ่งเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้  (15 กรกฎาคม 2564) ในชื่อโครงการสมุย พลัส หรือ SAMUI Plus โดยวางมาตรการทั้งด้านสาธารณสุข การเดินทาง และการตลาดไว้อย่างรัดกุม เพื่อให้การเปิดพื้นที่ในครั้งนี้ สามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวให้เดินทาง อีกทั้ง สร้างความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุขให้กับชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้อีกด้วย

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการ SAMUI Plus ททท. ได้ประสานกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและดำเนินการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน 10 ขั้นตอน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดียิ่งทำให้การดำเนินโครงการราบรื่นและเข้มแข็ง ประกอบด้วย แผนการทำความเข้าใจถึงมาตรการรองรับและฝึกอบรมผู้ประกอบการ แผนการรองรับสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ แผนประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร

แผนการคัดกรองเกี่ยวกับขาเข้า ทางเครื่องบิน ทางเรือ และทางบก แผนการควบคุม ดูแลความปลอดภัย ภายในและภายนอกสถานประกอบการ แผนการขนส่ง ลำเลียงการเดินทางนักท่องเที่ยวและผู้ป่วยทางเครื่องบิน ทางเรือ และทางบก แผนการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น แผนการติดตามและประเมินผล แผนบริหารจัดการขยะ และแผนการส่งเสริมการตลาด

ทำให้มั่นใจว่าแผนดำเนินการดังกล่าวจะสามารถทำให้โครงการ SAMUI Plus ประสบผลสำเร็จทั้งเชิงรายได้ ความมั่นใจด้านสาธารณสุข และการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยคาดการณ์ว่าเมื่อผ่านไป 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 1,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 180 ล้านบาท

โดย ททท. ได้มีแผนการประชาสัมพันธ์โดยได้เชิญสื่อมวลชน เซเลบริตี้ และอินฟลูเอ็นเซอร์ จากทั่วโลกให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ พร้อมทั้งทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยว แล้วถ่ายทอดไปยังผู้ชม ผู้ติดตาม แฟนเพจ  รวมทั้ง เชิญนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำ เพื่อมาเจรจาธุรกิจหรือลงทุนในเกาะสมุย 

สำหรับวันแรกของการเปิดโครงการฯ  (15 กรกฎาคม 2564) มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจำนวนรวม 9 คน ล้วนเป็นสื่อมวลชนที่ ททท. ได้เชิญเพื่อให้สัมผัสการบริหารจัดการของโครงการ SAMUI Plus โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของบางกอกแอร์เวย์สเที่ยวบิน PG 5125 กรุงเทพฯ – สมุย เวลา 11.10 น. จำนวน 5 คน จากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี เที่ยวบินที่ 2 PG 5171 ถึงสมุย เวลา 18.15 น. จำนวน 4 คนจากสิงคโปร์และฮ่องกง  

นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติที่เดินทางจากต่างประเทศเพื่อเข้าโครงการ  SAMUI Plus คือ ต้องมาจากประเทศหรือพื้นที่ที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค. ซึ่งพิจารณาจากหลักเกณฑ์ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผ่านการเสนอจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. โดยมีหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE) มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าปลอดเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล หรือหลักประกันอื่นใด ซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด-19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ

รวมทั้งมีเอกสารหรือหลักฐานรับรองการรับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนต้องเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลและให้มีใบรับรองแพทย์  เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทยจะต้องถูกตรวจคัดกรองโดยวิธี RT-PCR อีก 3 ครั้ง ครั้งแรก ในวันที่เดินทางมาถึง ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 – 7 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 12 – 13 โดยเมื่ออยู่ครบ 14 วัน จึงจะเดินทางไปพื้นที่อื่นของประเทศไทยได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกจากประเทศไทยก่อนอยู่ครบ 14 วัน จะต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น 

ในส่วนการพำนักภายในโครงการ SAMUI Plus นั้น นักท่องเที่ยวต้องเข้าพักในโรงแรมที่ Samui Extra Plus Hotels ซึ่งเป็นโรงแรมระดับมาตรฐาน AQ บนเกาะสมุยเท่านั้น หากผลการตรวจครั้งแรกเป็นลบ จึงสามารถออกจากห้องพักและทำกิจกรรมภายในบริเวณของโรงแรมได้ (Chill at Hotel)  ในวันที่ 4 – 7 สามารถเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางตามโปรแกรมท่องเที่ยวโดยบริษัทนำเที่ยวที่ผ่านการอบรม ในเส้นทางที่กำหนดเป็นการเฉพาะ หรือ Sealed Route มี 3 เส้นทาง ได้แก่ หาดถ้ำร้าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง การล่องเรือ กิจกรรมเชิงสุขภาพ ( Wellness and Spa ) ในวันที่ 8 – 14  นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนโรงแรมได้ แต่เป็นโรงแรมได้รับเครื่องหมาย SHA Plus ทั้งบนเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติ อาทิ การให้นักท่องเที่ยวติดตั้งแอปพลิเคชั่น Thailand Plus แอปพลิเคชั่น หมอชนะ และลงทะเบียนเพื่อเข้าพื้นที่ อำเภอเกาะสมุย ผ่านทาง healthpass.smartsamui.com รวมไปถึงการนำระบบ SHA Manager มาใช้ เพื่อให้มีผู้สามารถตอบคำถามและคอยดูแลนักท่องเที่ยว พร้อมรายงานปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เพื่อให้สามารถให้การช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที 

รวมไปถึงชาวเกาะสมุย ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภาครัฐและภาคเอกชน ยังให้ความร่วมมือร่วมใจเป็นอย่างดี ได้มีการกำหนด SOP ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติอย่างละเอียด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวและชาวเกาะสมุยได้ปลอดภัยจากการติดเชื้อและป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างกัน ส่งผลให้สามารถบริหารทรัพยากรด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากที่ ศบค.และ ครม.เห็นชอบจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมของระบบ Samui Plus Model  มีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ SOP (Standard Operation Procedures) 

และได้มีคำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติ Command Center จำนวน 4 ศูนย์ โดยมีทั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดและอำเภอ มีการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค สำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย อำเภอเกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยออกคำสั่งจังหวัดเพื่อควบคุม กำกับ ได้แก่ มาตรการก่อนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงการเดินทางในพื้นที่ต้องเป็นไปตามรูปแบบ Samui Plus Model 

มีการกำหนดท่าเทียบเรือ เพื่อมิให้ใช้ร่วมกับเรือสาธารณะ จำนวน 3 ท่าเทียบเรือ คือ ท่าเทียบเรือหน้าพระลาน ท่าเทียบเรือท้องศาลา และท่าเทียบเรือบ้านแม่หาด และได้มีแผนเผชิญเหตุไว้ 3 ระดับ คือ รุนแรงน้อย กรณีพบประชาชนในพื้นที่ติดเชื้อมากกว่า 20 ราย รุนแรงปานกลาง กรณีพบกระจายเชื้อ 3 คลัสเตอร์ ที่เกี่ยวเนื่องภายใน 2 สัปดาห์ และรุนแรงสูงสุด กรณีนักท่องท่องเที่ยวติดเชื้อจากโครงการมากกว่า 40 คน ภายใน 2 สัปดาห์ และมีการระบาดวงกว้างยากต่อการควบคุมให้กลับสู่สภาวการณ์ปกติ และได้ขอความร่วมมือประชาชน ผู้ประกอบการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด   

ในส่วนของนักท่องเที่ยวคนไทยหรือผู้ที่พำนักในประเทศไทยนั้น สามารถติดตามมาตรการการเข้าและออกเกาะสมุยได้จากเฟสบุคแฟนเพจ :  ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย (www.facebook.com/covidcenterkohsamui)  และค้นหาสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA Plus ได้ที่ https://www.thailandsha.com ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบนเกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพงัน ได้รับเครื่องหมาย SHA Plus รวม 160 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2564)