เมื่อวันที่ 7 มีนาคม สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เหตุจลาจลจากการปะทะกันของชาวพุทธและมุสลิมในประเทศศรีลังกายังคงดำเนินต่อไป แม้เมื่อวันก่อนหน้ารัฐบาลศรีลังกาจะประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 10 วัน เพื่อควบคุมเหตุความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นจากความรู้สึกต่อต้านชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อยในศรีลังกาก็ตาม
โฆษกตำรวจศรีลังกาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องฉีดแก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลในหมู่บ้านเมนิคินนะ ชานเมืองแคนดี้ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุขัดแย้งจุดใหม่ หลังจากเกิดการปะทะกันขึ้นในช่วงกลางดึกคืนวันก่อน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัฐบาลภาวะฉุกเฉิน เป็นผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ขณะที่มีผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวไป 7 คนจากการละเมิดเคอร์ฟิวและพยายามจะก่อความไม่สงบขึ้น
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ในวันเดียวกันนี้ โรงเรียนหลายแห่งในเมืองแคนดี้ยังคงปิดเรียน ในขณะที่ทางการศรีลังกาส่งกำลังทหารเข้าไปสมทบกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความสงบและป้องกันเหตุความรุนแรงขยายวงลุกลามไปยังพื้นที่อื่น
รัฐบาลหลายชาติออกประกาศเตือนพลเมืองของตนให้ระมัดระวังในการเดินทางไปยังศรีลังกา โดยรัฐบาลอังกฤษระบุว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลศรีลังกาอาจเป็นผลให้มีการบังคับใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่จำเพาะ จึงขอให้ชาวอังกฤษระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วงและให้ปฏิบัติตามข้อบังคับด้านความมั่นคงของทางการ
ที่มา : มติชนออนไลน์