ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานวันนี้ว่า “เหล ก๊า เส่ง” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ลี กา ชิง” มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดแห่งเกาะฮ่องกง ประกาศรีไทร์จากการบริหารสินทรัพย์และธุรกิจมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมส่งมอบตำแหน่งให้ลูกชายคนโต “วิคเตอร์ ลี” กุมบังเหียนต่อไป
ในวันนี้ ลี กา ชิง ได้ชื่อว่าเป็น “ซุปเปอร์แมน” แห่งการเจรจาข้อตกลง ได้แถลงว่า เขาจะรีไทร์จากตำแหน่งประธานกลุ่ม “CK Hutchison” ซึ่งเป็นบริษัทหลักของเครือ รวมถึง บริษัทบริหารสินทรัพย์ “CK Asset” โดยสืบทอดตำแหน่งให้กับวิคเตอร์ ลูกชายวัย 53 ปี
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
แผนการสืบทอดตำแหน่ง ได้เกิดขึ้นยาวนานมาราว 10 ปีก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮ่องกงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยมีกลุ่มมหาเศรษฐี หรือที่เรียกกันว่า “ไทคูน” เป็นฟันเฟิองหลัก ดังนั้นการเปลี่ยนประธานคนใหม่ของ “CK Group” จากลี กา ชิง สู่ วิคเตอร์ ลี ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของฮ่องกงทีเดียว
ปีนี้ ลี กา ชิง ก้าวเข้าสู่วัย 89 ปี เขาก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ “Cheung Kong Group” เริ่มต้นมาจากธุรกิจทำดอกไม้พลาสติกเล็กๆ ในปี 1950s และแม้ว่าธุรกิจดอกไม้พลาสติกดังกล่าว จะส่งผลให้เขารวยจนสามารถเกษียณงานได้ในอายุ 30 ปี แต่ลี กา ชิง ไม่หยุดแค่นั้น เขาขยายกิจการออกไปจนกลายเป็นเครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเป็นเจ้าของท่าเรือ 52 แห่งทั่วโลก รวมถึงบริษัทพลังงาน กิจการด้านสาธารณูปโภค เครือข่ายมือถือ 3 ค่าย รวมถึงร้านขายยาชื่อดัง “วัตสัน”
“โจเซฟ ฟาน“ ศาสตราจารย์ด้านการเงิน จากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง กล่าวว่า “ไม่มีใครแทนที่ลี กา ชิง ได้ แน่นอนว่าจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าการเกษียณของลี กา ชิง จะกระทบต่อกำลังผลิตและมูลค่าของอาณาจักรลี มากแค่ไหน”