ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ “ศาลโลก” สั่งอิสราเอลดำเนินการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ แต่ไม่สั่งหยุดยิงตามที่แอฟริกาใต้ยื่นคำร้อง
สืบเนื่องจากที่แอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ “ศาลโลก” เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยขอให้ศาลโลกออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อยุติการสู้รบในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 26,000 คน โดยกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในการรุกฉนวนกาซา
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานความคืบหน้าการพิจารณาคดีว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศรับพิจารณาคำร้องของแอฟริกาใต้ที่กล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ และศาลได้สั่งให้อิสราเอลดำเนินการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ พร้อมกับดำเนินการช่วยเหลือพลเรือนให้มากขึ้น แต่ไม่ได้สั่งให้อิสราเอลหยุดยิงตามที่แอฟริกาใต้ร้อง ขณะเดียวกัน ศาลก็เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันที
ผู้พิพากษากล่าวว่า อิสราเอลต้องใช้มาตรการทั้งหมดที่อยู่ในอำนาจของตนเพื่อป้องกันไม่ให้กองทหารของตนกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือทารุณชาวปาเลสไตน์ และต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และรายงานความคืบหน้าอีกครั้งในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
ในการอ่านคำพิจารณารับคำร้อง โจน โดโนฮิว (Joan Donoghue) ประธานศาลโลกบรรยายถึงสถานการณ์ของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา โดยกล่าวถึงอันตรายต่อเด็กและอ้างคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (UN) และเธอกล่าวว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของศาลในการที่จะดำเนินการฉุกเฉินเพื่อป้องกันอันตรายที่แก้ไขไม่ได้
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าศาลจะรับพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่แอฟริกาใต้ยื่นคำร้อง แต่การพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะมีคำตัดสิน และถึงแม้ว่าคำตัดสินที่จะออกมาในอนาคตนั้นเป็นคำตัดสินที่ไม่สามารถอุทธรณ์ได้ แต่ ICJ ก็ไม่มีกลไกในการบังคับให้อิสราเอลต้องดำเนินการตามคำตัดสินของศาลแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรป หรือฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ออกแถลงการณ์ว่า คำสั่งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีผลผูกพันคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และทั้งอิสราเอลและฮามาสจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
“สหภาพยุโรปคาดหวังให้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ ทันที และมีประสิทธิภาพ” แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรประบุ
ขณะที่แอฟริกาใต้เรียกคำสั่งศาลว่าเป็น “ชัยชนะขั้นเด็ดขาด” สำหรับหลักนิติธรรมสากล
ด้านอิสราเอลโต้ว่า ข้อกล่าวหาของแอฟริกาใต้ “เป็นเท็จ” และ “บิดเบือนอย่างร้ายแรง” โดยบอกว่าปฏิบติการของกองกำลังอิสราเอลเป็นการทำหน้าที่ป้องกันตนเองจากศัตรูที่โจมตีก่อน และเป็นการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องพลเรือน
ส่วนสหรัฐที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของอิสราเอลตั้งข้อสังเกตว่า คำตัดสินดังกล่าวไม่ได้พิพากษาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และกล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของสหรัฐที่ว่า อิสราเอลมีสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำจากการโจมตีอิสราเอลโดยฮามาสในวันที่ 7 ตุลาคม 2023