จากกรณีที่รัฐบาลเวียดนามออกระเบียบบังคับใช้มาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์ทุกรุ่นทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีนี้ โดยกำหนดให้รถยนต์นำเข้าต้องตรวจสอบมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกับห้องทดสอบของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศ ทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถรองรับการทดสอบรถยนต์ได้ทั้งหมดในระยะเวลาสั้น ส่งผลให้ระยะเวลาในการส่งรถยนต์ไปยังเวียดนามต้องใช้เวลานานขึ้นอีก 30 วัน
ทั้งนี้ นางจาง ไท ทัน ทูตการค้า สถานเอกอัครราชทูตเวียดนาม ประจำประเทศไทย ยืนยันกับ ประชาชาติธุรกิจ ว่าพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 116/2017/ND-CP เพื่อกำหนดเป้าหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคและปกป้องสิ่งแวดล้อมในเวียดนาม ดำเนินการตามข้อกฎระเบียบทุกประการขององค์การการค้าโลก (WTO) และไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อบัญญัติของ ATIGA หรือความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือกระทำเพื่อก่อให้เกิดดุปสรรคในการนำเข้า
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ทูตการค้าฯ เชื่อว่า รัฐบาลเวียดนามพร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยในการเจรจาถึงปัญหาอย่างจริงจัง และช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นต่อนักธุรกิจไทย โดยเฉพาะขั้นตอนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
ขณะที่หน่วยงานของไทย ได้พยายามเสนอการทำข้อตกลงความยอมรับร่วมกัน (MRA) เพื่อแก้ปัญหาการตรวจสอบมาตรฐานสิ่งแวดล้อมดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งเวียดนามเองก็มองว่าข้อตกลง MRA จะนำไปสู่การเจรจาอย่างสันติ และบรรลุตามความประสงค์ของทั้งสองประเทศได้ เนื่องจากเวียดนามเองก็ยังคงต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย เพื่อตอบสนองดีมานด์ที่แข็งแกร่งในประเทศ ส่วนอุตฯ ยานยนต์ของเวียดนามยังต้องพัฒนาขึ้นมากกว่านี้
ทั้งนี้ การเสนอข้อเจรจาดังกล่าว คาดว่าจะมีขึ้นในระหว่างการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-เวียดนาม ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมนี้
