รู้จัก “Luckin” กาแฟน้องใหม่จีน เขย่าบัลลังก์ “Starbucks”

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟกระจายไปทั่วโลก แม้แต่ “จีน” ที่ขยายตัวจากความนิยมของชาวจีนรุ่นใหม่ “ลัคกิ้น” (Luckin) แบรนด์กาแฟสัญชาติจีนน้องใหม่ แจ้งเกิดได้เกือบ 3 ปี แต่สามารถทำให้ “สตาร์บัคส์” เจ้าตลาดเดิมรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ

รายงานของ “ฟอร์บส” ระบุว่า “ลัคกิ้น” เปิดตัวในปี 2017 สามารถเติบโตได้รวดเร็วมาก ปีก่อนมามีลูกค้ากว่า 12 ล้านรายและยอดขายกว่า 85 ล้านแก้ว สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่าง “สตาร์บัคส์” ที่เป็นเจ้าตลาดกาแฟในจีนอยู่เดิม

กลยุทธ์สำคัญของลัคกิ้นแตกต่างจากสตาร์บัคส์เพราะเน้นเปิดร้านขนาดเล็กและการบริการที่รวดเร็ว ทั้งบริการดีลิเวอรี่ ด้วยราคาเครื่องดื่มที่ถูกกว่าสตาร์บัคส์ รวมถึงโปรโมชั่นเช่น “ซื้อ 2 แถม 1” ลัคกิ้นรับชำระสินค้าเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ส่วนสตาร์บัคส์เน้นการลงทุนในร้านขนาดใหญ่เพื่อรองรับลูกค้าที่ชอบดื่มกาแฟแบบ “นั่งชิล” การเติบโตที่รวดเร็วของลัคกิ้นส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนมหาศาลถึง 2,200 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (จีไอซี) ของสิงคโปร์ และกลุ่มไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอลของจีน ทั้งยังมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐในปีนี้ด้วย

โดยปี 2018 ที่ผ่านมา ลัคกิ้นทุ่มทุนกว่า 118 ล้านดอลลาร์ ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 2,000 แห่ง และตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 2,500 สาขาปีนี้ ซึ่งหมายว่าจะมีร้านกาแฟของลัคกิ้นจะแซงหน้าสตาร์บัคส์ ที่ปัจจุบันมีร้านกาแฟในจีนอยู่ประมาณ 3,600 แห่ง

“หลิว เออไห่” ผู้ร่วมก่อตั้งลัคกิ้น กล่าวว่า ปัจจุบันลัคกิ้นยังไม่มีกำไรเพราะอยู่ในช่วงการขยายธุรกิจ แต่จะมุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดต้นทุน ซึ่งจะทำให้ลัคกิ้นประสบความสำเร็จ

“เบน คาเวนเดอร์” ผู้อำนวยการ “ไชน่า มาร์เก็ต รีเสิร์ช กรุ๊ป” บริษัทที่ปรึกษาการตลาดในเซี่ยงไฮ้วิเคราะห์ว่า ลัคกิ้นจึงมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้นำร้านกาแฟตลาดจีนได้ เพราะเข้าใจพฤติกรรมของคนจีน และจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการหลีกหนีราคาเครื่องดื่มที่สูงลิ่วของสตาร์บัคส์