นับจากความล้มเหลวในการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ กับพรรคแรงงาน (Labour Party) หรือพรรคฝ่ายค้านหลักของอังกฤษ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการเจรจาไม่มีข้อตกลงร่วมกันแต่อย่างใด อีกทั้ง นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ยังยืนยันว่าพรรคเลเบอร์จะไม่ออกเสียงรับรองข้อตกลงของนายกฯ เมย์ โดยเด็ดขาด
ล่าสุดเอพีรายงานในวันนี้ (17 พ.ค.) ระบุว่า นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนัก สำหรับกรอบเวลาการลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ เพื่อเซ่นความล้มเหลวในการโน้มน้าวรัฐสภาอังกฤษให้ยอมรับในข้อเสนอของเธอ เพื่อบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อออกจากการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
รายงานระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเมย์ยืนยันว่า เธอพร้อมที่จะกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในเดือน มิ.ย.นี้ ภายใต้ความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะทำให้ข้อตกลงเบร็กซิตของเธอที่ได้เจรจากับอียู ผ่านการรับรองโดยรัฐสภาอังกฤษ โดยคาดหวังว่าอังกฤษจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อนกำหนดเวลาออกจากอียู ซึ่งกรอบเวลาใหม่คือ วันที่ 31 ต.ค.2019
ทั้งนี้ รายงานระบุด้วยว่า โฆษกของรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า ในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ นายกฯ เมย์ จะเข้าเสนอข้อตกลงแผนการเบร็กซิตต่อสมาชิกรัฐสภาอีกครั้ง หลังจากนั้นเธอเตรียมจะนัดพบเพื่อกำหนดตารางเวลาสำหรับการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party)
โดยจะหมายความว่า ผู้ชนะที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลจะกลายเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนใหม่ของประเทศ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งทั่วไป
