จากกระแสที่ “กูเกิล” ระงับการให้บริการกับ “หัวเว่ย” ในวันนี้ (20 พ.ค.) เป็นผลจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งพิเศษประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบริษัทของอเมริกาใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผลิตโดยบริษัทต่างชาติ ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ อันเป็นที่รู้กันว่า เป็นการขึ้นบัญชีดำกับ “หัวเว่ย” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน
โดยคำประกาศของ กูเกิล จะมีผลบังคับใช้ทันทีจากวันที่ประกาศ ซึ่งจะส่งผลให้บริการต่างๆ ของ กูเกิล ไม่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ของหัวเว่ยได้ อันครอบคลุมตั้งแต่ Play Store ไปจนถึงบริการ Google Maps ขณะที่รายงานของ “ซีเอ็นเอ็น” ระบุรวมไปถึง การไม่สามารถใช้งานสำหรับการอัพเดทความปลอดภัย Security Patch จากทางกูเกิลด้วย
- ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด นราธร-อุรัชนา ศรีชาพันธุ์ ถูกฟ้องล้มละลาย
- เปิดเกณฑ์แจกเงินผู้สูงอายุ 3,000 บาท เช็กขั้นตอนรับเงิน
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุรับ 900 บาท เริ่มโอนแล้ว เช็กรายละเอียด
ล่าสุด “บลูมเบิร์ก” รายงานความคืบหน้าว่า สถานการณ์กำลังแย่ลงไปอีกสำหรับ “หัวเว่ย” หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก 3 ราย ได้แก่ Intel, Qualcomm และ Broadcom เตรียมระงับการผลิตและจัดส่งชิปให้กับหัวเว่ยเช่นกัน
ขณะที่ “นิกเกอิ เอเชีย รีวิว” รายงานว่า บริษัท Infineon Technologies ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของเยอรมนี รวมถึงผู้ผลิตชิปหน่วยความจำของสหรัฐ 2 บริษัท ได้แก่ Micron Technology และ Western Digital ที่ประกาศเตรียมจะหยุดการจัดส่งสินค้าให้กับหัวเว่ยทันทีที่ประกาศ
ทั้งนี้ รายงานของ บลูมเบิร์ก ระบุว่า ขณะที่บริษัทหัวเว่ยและกูเกิลยังต้องเจรจาเพื่อหาข้อสรุปจากผลกระทบดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ในช่วง 1-2 วันต่อจากนี้อาจเห็นท่าทีของหัวเว่ยชัดเจนขึ้น ขณะที่ ST Microelectronics ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในยุโรป ก็เตรียมจะหารือในประเด็นการจัดส่งสินค้าให้กับหัวเว่ยภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งระบุเพียงว่า จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบอย่างรอบคอบก่อน