บีบีซีรายงานว่า ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก วางแผนที่จะห้ามผลิตและจำหน่ายรถยนต์และรถตู้ที่ใช้น้ำมันเบนซิลและดีเซล
รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของจีนกล่าวว่า แผนดังกล่าวกำลังเริ่มศึกษาวิจัย แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าการแบนรถเบนซิลและดีเซลครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
“มาตรการเหล่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมากสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา” Xin Guobin กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาจีนผลิตรถยนต์ไปประมาณ 28 ล้านคัน ซึ่งเกือบเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดทั่วโลก
โดยก่อนหน้านี้ทั้งสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้ประกาศแบนรถยนต์ดีเซลและเบนซิลภายในปี 2040 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดมลภาวะและก๊าซเรือนกระจก
ค่ายรถยนต์สัญชาติจีนอย่างวอลโว่ได้กล่าวเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ปี 2019 รถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมดของวอลโว่จะมีเครื่องยนต์ไฟฟ้า
โดยกีลีย์ บริษัทจีนที่เข้าซื้อกิจการวอลโว่ ได้ผลักดันการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างเงียบๆ มากกว่าทศวรรษ และตั้งเป้าว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 1 ล้านคัน ภายในปี 2025
ขณะที่บริษัทรถยนต์แบรนด์อื่นๆ ของโลกอย่างรีนัลท์-นิสสัน, ฟอร์ด และเจเนอรัล มอเตอร์ส ต่างก็กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน ถือเป็นการผลักดันการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนตามกฎระเบียบใหม่ที่ออกมาเพื่อต่อสู้กับปัญหามลพิษ