ถอยอีก! “แคร์รี ลัม” เตรียมจัดเจรจาหาข้อยุติ “ม็อบฮ่องกง”

REUTERS/Amr Abdallah Dalsh

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “แคร์รี ลัม” ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเปิดเผยว่า คณะผู้บริหารของฮ่องกงเตรียมจัดการเจรจาร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งและความรุนแรงภายในสัปดาห์หน้า โดยจะเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนเพื่อมีส่วนร่วมในการเจรจาได้

โดยลัมระบุว่า ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินภายในฮ่องกงที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรที่หนาแน่นราว 7.4 ล้านคน ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่พอใจจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในการหาที่อยู่อาศัยของตนเอง “ปัจจุบันปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองได้ฝังรากลึกลงในสังคมฮ่องกง ดิฉันหวังว่าการเจรจาในรูปแบบต่าง ๆ จะเป็นเวทีสำหรับการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน”

“อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการบังคับใช้กฏหมายอีกต่อไป เพราะการปราบปรามความรุนแรงเบื้องหน้าเรายังคงมีความสำคัญ” ลัมกล่าวเพิ่มเติม

การเปิดการเจรจาครั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่ามาจากแรงกดดันของรัฐบาลจีน ที่ต้องการให้ผู้บริหารฮ่องกงพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดของการประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 4 เดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้ลัมจะประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการประท้วงออกเป็นการถาวร แต่ผู้ชุมนุมต่างมองว่าสายเกินไปและยังเดินหน้าประท้วงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งของตนเอง รวมถึงการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ ในวันที่ 16 ก.ย. “Moody” สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินระดับโลก ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือทางการเงินของฮ่องกงลงสู่ระดับ “ติดลบ” ซึ่งหมายความว่า มีความเสี่ยงต่อการลงทุนสูงจาก “ความไม่มั่นคงของสถาบันต่าง ๆ ของฮ่องกง” โดยก่อนหน้านี้ ความน่าเชื่อถือของฮ่องกงเคยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพมากกว่าจีน เนื่องจากสถาบันต่าง ๆ ของฮ่องกงที่มีอิสรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ

แคร์รี ลัมได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่าการปรับลดความน่าเชื่อถือของ Moody ครั้งนี้เป็นเรื่องน่าผิดหวัง “เราไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการเหตุผลของการลดระดับความน่าเชื่อถือ ที่มาจากข้อสงสัยที่ว่า เรายังคงสนับสนุนแนวทาง หนุ่งประเทศสองระบบอยู่หรือไม่”

จีนยืนยันว่ายังมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแนวทางหนึ่งประเทศสองระบบ และปฏิเสธว่าไม่ได้แทรกแซงสถาบันต่าง ๆ ของฮ่องกง อย่างไรก็ตาม จีนเน้นย้ำว่าสถานการณ์ในฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีน