เวิล์ดแบงก์ชี้โควิด “คนยากจน” พุ่ง115ล้านคน “มหาเศรษฐี” ยิ่งรวยขึ้น

A Miskito indigenous woman arranges firewood for a girl to carry home in the community of Sangnilaya, Puerto Cabezas, North Caribbean Coast Autonomous Region of Nicaragua, on September 24, 2020. - Over half a million Miskito indigenous people, distributed in 350 communities in the Nicaraguan Caribbean, live on land products, fishing and commerce, keeping their language and ancestral form of organization. (Photo by INTI OCON / AFP)

ธนาคารโลกเปิดผลกระทบโควิด-19ทำให้นี้ทั่วโลกมีคนยากจนเพิ่มเป็น 115 ล้านคน ขณะที่เศรษฐีพันล้านกลับร่ำรวยมากขึ้น

สำนักข่าวบีบีซีรายงาน ธนาคารโลกเปิดเผยข้อมูลว่าปี 2020 คาดว่ามีคน “ยากจนมาก” (extreme poverty) ถึง 115 ล้านคน ประมาณ 9.25% ของประชากรโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขคน “ยากจนมาก” เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1998

ปัจจัยที่ทำให้คน “ยากจนมาก” เพิ่มขึ้นในปีนี้เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 ความขัดแย้งในบ้านเมือง และภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งทางธนาคารโลกกำหนดความ “ยากจนมาก” ไว้ว่าคือคนที่มีเงินใช้น้อยกว่า 1.90 ดอลลาร์สหรัฐ (46 บาท) ต่อวัน

ขณะที่ธนาคารยูเอสบีของสวิสเซอร์แลนด์เผยว่า สถานการณ์โควิด-19ทำให้ปีนี้ “มหาเศรษฐี” (billionaire) มีความมั่งคั่งมากที่สุดเป็นประวัติกาล และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพบว่าปีนี้กลุ่มมหาเศรษฐีของโลกมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 27.5% ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา และมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันอยู่ที่ 10.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเจ้าของและซีอีโอในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังพบว่าจำนวนเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นจาก 2,158 เป็น 2,198 คนในปีนี้ด้วย

ธนาคารโลกเปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19ได้เพิ่มความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมมากยิ่งขึ้น และหากไม่มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็ว ตัวเลขประชากรโลกที่มีความยากจนมากอาจเพิ่มไปถึง 150 ล้านคนในปี 2021 ซึ่งผิดกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่มองไว้ว่าอัตราคนยากจนจะลดลงเหลือ 7.9% ในปี 2020