ทรัมป์ไล่ปลัดกลาโหมฯ ส่งสัญญาณ “อันตราย” ก่อนหมดวาระ

REUTERS/Carlos Barria/File Photo

ทรัมป์และปลัดกลาโหมได้มีปมขัดแย้งกัน หลังปลัดไม่ยอมใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงเมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ย.) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐไล่ปลัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐ “มาร์ค เอสเปอร์” ออกจากงาน และนำ นาย “คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์” หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสหรัฐขึ้นมารับตำแหน่งแทนทันที

รัฐบาลทรัมป์ไม่ได้ให้คำแถลงการณ์ถึงเหตุผลของการไล่ออก แต่เขาและนายมาร์คมีความขัดแย้งในประเด็นเรื่องการประท้วง “ความไม่ยุติธรรมด้านการเหยียดเชื้อชาติ” ของชาวสหรัฐที่ไม่พอใจต่อการฆาตกรรมของ “จอร์จ ฟลอยด์” เมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์เล็งเห็นว่าควรใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม แต่มาร์คไม่เห็นด้วย และมองว่าการประท้วงไม่ได้รุนแรงระดับนั้น

ทางพรรคเดโมแครตกล่าวว่าการไล่ออกของทรัมป์ได้ส่งถึงสัญญาน “อันตราย” สำหรับการเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดีเป็น “โจ ไบเดน” ผู้นำพรรคเดโมแครตที่ได้ชนะการเลือกตั้ง และจะเข้ามาแทนที่ทรัมป์ หลังมีการคาดการณ์ว่าทรัมป์จะสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อพลิกผลการเลือกตั้งมาเป็นผู้ชนะแทน

“แนนซี่ เพโลซี่” ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐ กล่าวว่าการที่ไล่ปลัดมาร์คแสดงให้เห็นถึงความวุ่นวายที่ทรัมป์จะก่อก่อนหมดวาระ และเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐและทั่วโลก

ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าได้หยุดการทำงานของนายมาร์ค และกล่าวแค่ขอบคุณสำหรับการทำงาน พร้อมกับทวีตต่อมาว่าจะให้นาย “คริสโตเฟอร์” ขึ้นทำงานแทนทันที

การไล่ออกครั้งนี้เกิดขึ้น 2 วันหลังทรัมป์แพ้ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทรัมป์ไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับการพ่ายแพ้ พร้อมกับเตรียมฟ้องร้องดำเนินตามกฏหมายเรียบร้อย