เบื้องหลังวัคซีนเมดิเจน ไต้หวันผลิตเอง ปธน.หญิงลงทุนฉีดสร้างความเชื่อมั่น

เบื้องหลังวัคซีนไต้หวัน
REUTERS/Annabelle Chih

“ไช่ อิงเหวิน” ประธานาธิบดีไต้หวัน ลงทุนเข้ารับการฉีดวัคซีนเมดิเจน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ไต้หวันพัฒนาขึ้นเอง โดยที่ยังไม่ผ่านการทดลองทางคลินิกครบ 3 ขั้นตอน 

วันที่ 23 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นภายในไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการเปิดตัววัคซีนสู่สาธารณะด้วยในคราวเดียวกัน

วัคซีนดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดย เมดิเจน วัคซีน ไบโอโลจิกส์ คอร์ป ซึ่งได้รับการอนุมัติฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว จากหน่วยงานกำกับดูแลเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นำไปสู่การต่อต้านอย่างรุนแรงจากหลายหน่วยงานด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์

หน่วยงานกำกับดูแลของไต้หวันข้ามเรื่องการศึกษาระยะยาวและกินขอบเขตกว้าง ที่มักใช้เพื่ออนุมัติวัคซีน แต่ใช้การเปรียบเทียบระดับแอนติบอดีที่วัคซีนเมดิเจนสามารถสร้างขึ้น กับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งได้รับการอนุมัติใช้จากรัฐบาลหลายประเทศ และได้ผ่านการทดลองทางคลินิกครบ 3 ขั้นตอนแล้ว

การต่อต้านวัคซีนเมดิเจน

การตัดสินใจอนุมัติวัคซีนตามมาตรฐานใหม่นี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งจากคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนต้องลาออก

อัลจาซีรา รายงานว่า ก๊กมินตั๋ง หรือ เคเอ็มที พรรคฝ่ายค้านของไต้หวัน ได้รณรงค์ต่อต้านการฉีดวัคซีนดังกล่าว โดย นายโห ลุงปิน อดีตรองประธานพรรค ได้ยื่นฟ้องเพื่อขอเพิกถอนการอนุญาตฉีดวัคซีนเมดิเจน แต่ศาลปฏิเสธรับฟ้องไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เคเอ็มทียืนยันว่าทางพรรคสนับสนุนวัคซีนที่พัฒนาในไต้หวัน แต่ระบุว่าการอนุมัติวัคซีนเมดิเจนเป็นไปด้วยความรีบเร่ง

“ไม่มีความจำเป็นสำหรับชีวิตและสุขภาพของชาวไต้หวันที่จะทำหน้าที่เป็นหนูทดลองในห้องแลป” นายโห ชิห์-ยุง รองหัวหน้าฝ่ายระหว่างประเทศของเคเอ็มทีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ส

ด้านนักวิจารณ์มองว่า การอนุมัติใช้วัคซีนก่อนจะเสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกอย่างเต็มรูปแบบนั้น ทำให้ไม่มีข้อมูลว่าวัคซีนชนิดดังกล่าวสามารถป้องกันโควิด-19 ได้มากน้อยเพียงใดในโลกความเป็นจริง แม้ว่าการศึกษาเบื้องต้นอาจมีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

ระดับของแอนติบอดีในเลือด ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าสัมพันธ์กับการป้องกันโรค แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบถึงระดับแอนติเจนที่แน่นอนของวัคซีนดังกล่าว

หน่วยงานกับการดูแลของไต้หวันเผยว่า เมดิเจนจะต้องส่งข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพในโลกแห่งความเป็นจริงภายใน 1 ปี หลังจากได้รับการอนุมัติ พวกเขากล่าวด้วยว่าตอนที่อนุมัติวัคซีน มีข้อมูลที่จัดทำโดยเมดิเจนแสดงให้เห็นว่า วัคซีนชนิดนี้สามารถผลิตแอนติบอดีที่ทำให้เชื้อเป็นกลางในระดับ 3.4 เท่า เช่นเดียวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

เมดิเจนยืนยันความปลอดภัย

เมดิเจน ซึ่งในภาษาจีนแปลว่า “ระดับไฮเอนด์” ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่โจมตีว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่าวัคซีนที่ส่งออกสู่ตลาดด้วยความรีบเร่งเกินควร โดยยืนยันว่า วัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพและผ่านการทดสอบมาเป็นอย่างดี

“เราได้ทำการทดลองมากมาย ทุกคนเห็นพ้องกันว่าวัคซีนของเราปลอดภัยแค่ไหน วัคซีนชนิดนี้มีผลข้างเคียงน้อยมาก ผู้ได้รับวัคซีนแทบไม่มีไข้และอาการอื่น ๆ ผมคิดว่าทุกคนสามารถวางใจในวัคซีนได้” นายชาล์ส เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมดิเจน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ส

ผู้นำไต้หวันเข้ารับวัคซีนเมดิเจน

นางไช่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ที่โรงยิมในมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันในกรุงไทเป และเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่น เธอต้องลงทะเบียนฉีดวัคซีน ด้วยการหย่อนบัตรประกันสุขภาพลงในระบบคอมพิวเตอร์

อัลจาซีรารายงานว่า นางไช่ ได้ชะลอการเข้ารับวัคซีนโมเดอร์นาหรือแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของไต้หวัน เพื่อเข้ารับวัคซีนเมดิเจนแทน เธอได้พูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ระหว่างเตรียมตัวฉีด พร้อมตอบสั้น ๆ ว่า “ไม่” เมื่อนักข่าวถามว่าเธอกังวลหรือไม่ ? โดยมีการถ่ายทอดสดกระบวนการระหว่างที่นางไช่เข้ารับวัคซีนบนหน้าเฟซบุ๊กของเธอด้วย

หลังจากพยาบาลฉีดวัคซีนให้กับเธอแล้ว เธอจึงยกนิ้วทำท่าโอเคให้สื่อมวลชนเก็บภาพ

จนถึงขณะนี้มีประชาชนไต้หวันกว่า 7 แสนคน ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนเมดิเจน ซึ่งต้องฉีดเข็ม 2 ห่างจากเข็มแรก 28 วัน

วัคซีนชนิดนี้พัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติในสหรัฐฯ โดยใช้ชิ้นส่วนของโคโรนาไวรัสเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน

เบื้องต้น รัฐบาลไต้หวันได้สั่งวัคซีนชนิดนี้จำนวน 5 ล้านโดส พร้อมระบุว่า จะไม่มีใครถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนเมดิเจน

REUTERS/Annabelle Chih

การฉีดวัคซีนในไต้หวัน

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ประชากรในไต้หวัน 40% จากทั้งหมด 23 ล้านคน ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นโยบายการฉีดวัคซีนของเกาะไต้หวันคือการปูพรมฉีดเข็มแรก โดยเบื้องต้นจะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น เช่น บุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ จำนวนผู้ได้รับวัคซีนของไต้หวันในปัจจุบันถือว่าก้าวกระโดดจากเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีประชากรไม่ถึง 5% ที่ได้รับวัคซีน

พื้นที่ส่วนใหญ่ในไต้หวันปลอดโควิดมานานกว่า 1 ปีครึ่งแล้ว โดยในช่วงที่มีการระบาดของโควิดสายพันธ์ุอัลฟาทั่วทั้งเกาะ เมื่อเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ในไต้หวัน

ในเวลานั้น ไต้หวันได้รับวัคซีนที่ซื้อไปเพียง 7 แสนโดส แต่ได้รับวัคซีนจากการบริจาคของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 5 ล้านโดส