ราคาที่ดิน “จีน” ร่วง ดึงดูดนักพัฒนาฟื้นอสังหาฯ

ภาคอสังหาริมทรัพย์ของ “จีน”ต้องเผชิญความปั่นป่วน หลังจากยักษ์ใหญ่อย่าง “เอเวอร์แกรนด์” ประสบภาวะหนี้ท่วม แต่ความสำคัญของภาคอสังหาฯทำให้จีนไม่อาจปล่อยให้ล้ม และมีสัญญาณการผ่อนคลายเพื่อดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า รัฐบาลท้องถิ่นของจีนในหลายเมืองใหญ่กำลังลดราคาประมูลขายที่ดิน เพื่อดึงดูดนักลงทุน เนื่องจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนจำนวนมากขาดสภาพคล่องจากการคุมเข้มสินเชื่อของทางการ รวมถึงความวิตกต่อเสถียรภาพตลาด

มหานครใหญ่อย่าง “ปักกิ่ง” นำที่ดิน 12 แปลงออกประมูลขายเมื่อ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยตั้งราคาประมูลตั้งต้น 4,800 ล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับลดราคาลงจากการประมูลเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาถึง 15%

เช่นเดียวกับเมือง “หางโจว” ก็ลดราคาประมูลตั้งต้นลง 15% และ “กว่างโจว” ลดราคาตั้งต้นลงถึง 20% ขณะที่ “ซูโจว” ลดค่ามัดจำการประมูลที่ดินลงมาอยู่ที่ 30% ของราคาตั้งต้น จากเดิมกำหนดไว้ที่ 50%

ทั้งนี้ ภายใต้โปรแกรมขายที่ดินแบบรวมศูนย์ของจีน กำหนดให้รัฐบาลท้องถิ่นของ 22 เมืองใหญ่ ประมูลขายที่ดินได้ 3 ครั้งในปีนี้ แต่พบว่าในการประมูลเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีที่ดินราว 1 ใน 3 ของที่ทางการนำออกมาประมูลทั้งหมด 700 แปลง ไม่มีผู้สนใจประมูล

“ลู่ เหวินซี” นักวิเคราะห์บริษัท เซ็นทาลีน พร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า “การลดราคาประมูลขายที่ดินก็เพื่อให้การขายที่ดินประสบความสำเร็จ”

ทั้งนี้ การขายที่ดินถือเป็นแหล่งรายได้หลักของหน่วยงานท้องถิ่นจีน แต่แรงกดดันจากมาตรการควบคุมการเก็งกำไรและฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงวิกฤตหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯซบเซา โดยเฉพาะราคาที่พักอาศัยในจีนที่ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ไม่เพียงการลดราคาประมูลที่ดิน ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า รัฐบาลจีนยังผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อ ส่งผลให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของจีนในเดือน ต.ค. 2021 กลับมาเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหลังจากที่ลดลงติดต่อกันมา 4 เดือน

“โจว หลาน” หัวหน้าฝ่ายตลาดเงินของธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า เป้าหมายคือการจำกัดการไหลของสินเชื่อไปยังบริษัทอสังหาฯที่มีระดับหนี้สินสูง มากกว่าการปิดกั้นสินเชื่อเพื่อการพัฒนา โดยให้ธนาคารใหญ่ปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง

ทั้งยังอนุญาตให้บริษัทอสังหาฯออกตราสารหนี้มากขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. มีรัฐวิสาหกิจด้านอสังหาฯ 24 ราย ประกาศแผนออกตราสารหนี้รวมมูลค่าถึง 28,800 ล้านหยวน

“หยาน เยว่จิน” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา อี-เฮาส์ ไชน่า ระบุว่า ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณการผ่อนคลายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนว่ารัฐบาลกลางไม่ได้ต้องการจะทำลาย เพียงแต่ควบคุมให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ฝ่ายสินเชื่อของธนาคารไชน่าเมอร์เชินต์สแบงก์ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนจะยังไม่สามารถฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากผู้ซื้อยังคงมองว่าราคาอสังหาฯจะลดลงอีก ซึ่งบริษัทอสังหาฯยังต้องเผชิญความยากลำบากในการสร้างกระแสเงินสดเพื่อชำระหนี้และขยายการลงทุน