กองทัพบกสหรัฐเตรียมลดจำนวนทหารให้เหลือต่ำกว่า 1 ล้านนาย รับตลาดแรงงานตึงตัว พร้อมโยกงบฯพัฒนาเทคโนโลยีการรบ
วันที่ 29 มีนาคม 2565 บลูมเบิร์กรายงานว่า กองทัพบกสหรัฐ (US Army) ได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการด้านกิจการทหารของสภาคองเกรส โดยมีแผนลดจำนวนกำลังพลในกองทัพให้เหลือน้อยกว่า 1 ล้านนายเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ สืบเนื่องจากหลายปัจจัยทั้งการที่รัฐบาลวอชิงตันต้องใช้งบในการฟื้นสภาพเศรษฐกิจจากโควิด รวมถึงจำนวนแรงงานในภาคเอกชนที่ตึงตัวทำให้กองทัพตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
รายงานระบุว่า กองทัพบกสหรัฐได้เสนอต่อรัฐสภา ลดจำนวนกำลังพลทหารที่เข้าประจำการจากเดิมที่ราว 485,000 นาย ลดเหลือ 473,000 นาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับงบประมาณประจำปี 2023 ซึ่งเมื่อรวมกับกองกำลังรักษาดินแดนและกองกำลังสำรองแล้ว กองทัพบกสหรัฐฯจะมีทหารที่ยังคงประจำการในปีหน้าลดลงเหลือ 998,500 นาย นับเป็นการเปลี่ยนผ่านของกองทัพบกสหรัฐในรอบ 20 ปี
สำหรับกองทัพบกสหรัฐ ถือว่าเป็นกองทัพที่มีกำลังพลทหารในประจำการมากที่สุดจากทั้ง 6 เหล่าทัพ การเปลี่ยนผ่านครั้งแรกในรอบสองทศวรรษนี้ มีขึ้นหลังสหรัฐสิ้นสุดภารกิจต่อต้านก่อการร้ายในอัพกานิสถานและ ตะวันออกกลาง ทว่าหันมาเสริมกำลังเพื่อคานอำนาจของจีนในภูมิภาคแปซิฟิก และร่วมกับนาโต้ในการเสริมกำลังเพื่อรักษาแนวพรมแดนแถบยุโรปตะวันออกแทน ท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
Gabe Camarillo ปลัดกองทัพบก กล่าวว่า การตัดสินใจเชิงรุกนี้ เกิดขึ้นจากการมุ่งเน้นที่การเกณฑ์ทหารคุณภาพสูงโดยไม่ลดมาตรฐาน และไม่จำเป็นต้องเพิ่มเงินในงบประมาณจากสภา “เราไม่ต้องการทหารจำนวนมาก เรามองไปข้างหน้าในการสรรหางบประมาณที่เหมาะสม เพื่อมุ่งเน้นไปที่ความสามารถที่มีคุณภาพสูงที่สามารถดำเนินการภายในรูปแบบที่ความล้ำสมัย”
ที่ผ่านมาสหรัฐพึ่งพากองทัพจากกำลังพลทหารเกณฑ์ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศและปกป้องผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุคแห่งโลกไซเบอร์ ปัญญาประดิษฐ์ และอาวุธความเร็วเหนือเสียง จีนและรัสเซียได้กลายเป็นความท้าทายรอบใหม่ของสหรัฐแทนที่กลุ่มก่อการร้าย การขาดบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอาจกลายเป็นจุดอ่อนด้านความมั่นคงของชาติขั้นพื้นฐานในอนาคต
ขณะเดียวกัน กองทัพยังคงวิเคราะห์ว่าอาจลดลดเป้าหมายการรับสมัครกำลังพลทหารเกณฑ์ ทั้งเพิ่มข้อเสนอการเกษียณอายุก่อนกำหนดแก่นายทหารที่รับใช้ชาติมานาน เพื่อเปลี่ยนผ่านบุคลากรรุ่นใหม่รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนงบประมาณ
ปลัดกองทัพบกสหรัฐ เสริมว่า การลดจำนวนทหารครั้งนี้คาดว่าจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยกองทัพคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนกำลังพลอีกครั้งภายใน 5 ปีข้างหน้า “นายจ้างภาคเอกชน รวมถึงกองทัพบก กำลังเผชิญความท้าทายสำคัญ อันเป็นผลจากตลาดแรงงานที่ตึงตัว อันจะเห็นได้จากผลกระทบทางเศรษฐกิจหายประเทศ เหล่านี้ล้วนเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เราต้องปรับนโยบาย”
ขณะเดียวกัน กองทัพบกจะดำเนินการตามแผนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยทั้งหมดต่อไป ภายใต้โครงการพัฒนายุทโธปกรณ์ทันสมัยในปีนี้ เช่น ยานเกราะอเนกประสงค์ที่ผลิตโดย BAE Systems Plc. และอาวุธ Hypersonic ระยะไกลที่ผลิตโดย Lockheed Martin Corp