อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซีย เปิดเผยต่อบีบีซี ถึงประสบการณ์พยายามเจรจากับรัฐบาลรัสเซีย พร้อมเหตุผลว่า ทำไมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ถึงไม่ยอมแพ้ในสงครามยูเครน
จอห์น ซัลลิแวน เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโกของรัสเซีย ในช่วงก่อนที่รัสเซียจะยกทัพรุกรานยูเครน
อดีตเอกอัครราชทูตคนนี้ เป็นหนึ่งในคนที่พยายามพูดคุยกับทางการรัสเซีย เพื่อพยายามยับยั้งสงคราม “แต่ไม่ได้รับการสนองตอบ”
“ทางการรัสเซียเรียกร้องการรับประกันความปลอดภัยสำหรับรัสเซีย แต่ไม่ยอมหารืออย่างเป็นแบบแผนถึงความมั่นคงของยูเครน พวกเขาไม่ยอมพูดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องของตนเอง… มันแค่การเสแสร้ง จัดฉาก”
เมื่อถามว่า สหรัฐฯ ควรทำงานหนักขึ้นไหม เพื่อสานต่อบทสนทนากับรัฐบาลรัสเซีย เพื่อยุติความขัดแย้งที่ยาวนานมาถึง 1 ปี ซัลลิแวน ตอบว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน “ไม่สนใจเจรจาก่อนสงคราม และถึงตอนนี้ ก็ยังไม่สนใจเจรจา”
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จึงมุ่งเน้นการเรียกร้องการสนับสนุนจากนานาประเทศ เพื่อติดอาวุธให้ยูเครน และคว่ำบาตรรัสเซีย โดยสหรัฐฯ ได้ส่งมอบอาวุธรวมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้ยูเครน นับแต่ปีที่แล้ว
- รัสเซีย ยูเครน : นักศึกษารัสเซียเผชิญโทษจำคุก 10 ปี ฐานโพสต์ข้อความต้านสงคราม
- 1 ปี รัสเซียบุกยูเครน : ไบเดนเยือนกรุงเคียฟก่อนวันครบรอบ
- รัสเซีย ยูเครน : สหรัฐฯ เผยนักรบแวกเนอร์เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมากกว่า 30,000 คน
ในการปราศรัยของผู้นำรัสเซีย เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายปูตินยืนยันถึงมุมมองของเขาว่า ชาติตะวันตกเป็นคนเริ่มสงคราม และพยายามใช้ยูเครน เพื่อกำราบรัสเซีย “ในทางยุทธศาสตร์” รวมถึงรัสเซียต่างหากที่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ไม่ใช่ยูเครน
แม้สิ่งที่รัฐบาลรัสเซียประกาศว่าเป็นปฏิบัติการทางทหารพิเศษจะล้มเหลว แต่นายซัลลิแวน ระบุว่า เป้าหมายที่รัสเซียเคยประกาศไว้ยังคงเดิม นั่นคือ “ทำลายล้างนาซี” และ “ปลดอาวุธยูเครน” แต่ในมุมมองของซัลลิแวน มันคือ “การล้มล้างรัฐบาลเคียฟและปราบปรามชาวยูเครน”
นี่คือวิสัยทัศน์ที่ประธานาธิบดีปูตินย้ำมาตลอดว่า เป็นการรวมชาวรัสเซียที่กระจัดกระจายไปนับแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ให้กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง
ดังนั้น “ปูตินปล่อยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะรัฐบาลที่นำโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อยู่ในกรุงเคียฟต่อไปไม่ได้” ซัลลิแวน กล่าว
“ปูตินจะไม่มีวันพอใจ ตราบใดที่รัฐบาลนี้ยังอยู่ เพราะเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย และต่อวิสัยทัศน์ว่าด้วยรัฐรัสเซียอันกว้างใหญ่ที่เขาพยายามสร้าง”
แล้วต่อจากนี้ ต้องทำอย่างไรให้ปูตินหยุดสงคราม
“ต้องจูงใจปูตินให้เขาตระหนักว่า เขาชนะสงครามไม่ได้” ซัลลิแวน กล่าว “เราจะไม่ยอมถอยลง จนกว่าจะเชื่อว่า ไม่มีหนทางที่เขาจะชนะ ผมไม่อาจรู้ได้ว่า ความสูญเสียในสมรภูมิของรัสเซียจะต้องหนักแค่ไหน จนกว่าจะทำให้ปูตินตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะปัจจุบัน ทัศนคติเขายังไปไม่ถึงตรงนั้น”
นายซัลลิแวน ระบุว่า ผู้นำรัสเซียมีเป้าหมายระยะยาว และ “วิสัยทัศน์ถึงสิ่งที่เขาต้องการทำให้สำเร็จ เขาจึงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ”
แต่ชาวยูเครนเองก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นกัน ในความคิดของซัลลิแวน พร้อมวิเคราะห์ว่า ความล้มเหลวของปูตินในสงครามครั้งนี้ คือ ความพยายามโดดเดี่ยวยูเครน ที่มีประชากร 44 ล้านคน
“ชาวยูเครนจะไม่มีวันยกโทษและลืม” เขากล่าว “แม้ประธานาธิบดีเซเลนสกี จะอยากยุติสงคราม ยอมอ่อนข้อด้านดินแดน หรือยอมแพ้ แต่ชาวยูเครนจะไม่ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น”
ด้วยขนาดกองทัพ สถานการณ์ทางการเมือง และความเห็นต่างเชิงอุดมคติระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้สหรัฐฯ ต้องเตรียมรับมือกับสงครามที่ยาวนาน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของอเมริกาต่อการช่วยเหลือยูเครน หลังเดินทางเยือนกรุงเคียฟ โดยไม่แจ้งกำหนดการณ์ล่วงหน้า ในโอกาสครบ 1 ปีสงครามยูเครน แต่นายซัลลิแมนมองว่า ความขัดแย้งจะไม่ยุติลงในปีนี้แน่นอน
“แต่หลังจากนั้น ผมมิอาจรู้ได้” เขากล่าว “แต่ปูตินจะไม่ยอมถอยแน่ ๆ เพราะเขาพูดมาตลอดว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารพิเศษนี้จะต้องสำเร็จ”
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว