Music Talk by ท้องฟ้าสีเทา
เพลงที่ดังที่สุดในประเทศไทยตอนนี้น่าจะเป็นเพลง “แสงสุดท้าย” ของบอดี้สแลม ที่กระหึ่มมาคู่กับการวิ่งของพี่ตูนจากใต้ขึ้นเหนือ 2 พันกว่ากิโล
ด้วยจังหวะฮึกเหิม กระตุ้นจังหวะหัวใจ ดนตรีร็อกเข้มข้น เนื้อหาปลุกพลังเติมกำลังใจ รวม ๆ กันทำให้เพลงนี้มีพลังมาก เป็นเพลงที่โดดเด่นและถูกจดจำมากกว่าเพลงของบอดี้สแลมที่เป็นเพลงฮิตในช่วงเวลาใกล้กัน และเป็นเพลงที่บอดี้สแลมเลือกใช้เป็นเพลงเปิดหรือปิดโชว์คอนเสิร์ตในยุคหลัง ๆ และยิ่งตอกย้ำความเป็นเพลงสำคัญ ต่อเนื่องด้วยการเลือกใช้เป็นเพลงประจำโครงการก้าวคนละก้าว จนดังกึกก้องทั่วประเทศ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
บอดี้สแลมเป็นวงดนตรีที่ทำเพลงเนื้อหาปลุกพลังและให้กำลังใจมาตลอดตั้งแต่อัลบั้มแรกมาจนถึงอัลบั้มล่าสุด เนื้อหาเข้มข้นมากน้อยตามวัย รวม ๆ กันแล้วมากกว่า 10 เพลง เพื่อรับกระแสความสนใจในตัวพี่ตูน และแสดงความยินดีกับพี่ตูนที่วิ่งถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ จึงอยากชวนมาย้อนฟังเพลงให้กำลังใจจากบอดี้สแลมตั้งแต่อัลบั้มแรกไล่มาจนถึงอัลบั้มที่ 6 เผื่อใครเบื่อ “แสงสุดท้าย” จะได้มีเพลงอื่น ๆ เปิดสับเปลี่ยนให้กำลังใจกันให้ดังลั่นไปเลย
อัลบั้ม 1 Bodyslam
อัลบั้มแรกยังไม่มีเพลงที่พูดถึงความฝันและการสู้ชีวิตแบบเข้มข้น แต่มีเพลงเนื้อหาแบบคนรุ่นใหม่ใจสู้ก็คือเพลง “มือใหม่” กับเนื้อเพลงที่ว่า
“คนไม่ทำอะไร ไม่เคยต้องเจอความผิดหวังอะไร คนที่ทำอะไร ที่ทำลงไปเกินผิดพลั้งคงมี เราก็เป็นแค่คนที่ยังไม่เป็นก็เลยขอสักที มันจะดีไม่ดี เราก็ต้องเสี่ยง ขอลองสักครั้ง ก็เพราะว่าเรายังมือใหม่ ยังเป็นคนใหม่ ต้องขออภัยที่ยังไม่รู้ ก้เพราะไม่ยอมเป็นคนเก่า ไม่อยากจะนอนเฉยอยู่ แค่อยากลองดูให้รู้ด้วยตัวเอง” อธิบายความเป็นบอดี้สแลม วงดนตรีรุ่นใหม่ไฟแรงในวันนั้นได้เป็นอย่างดี
อัลบั้ม 2 Drive
อัลบั้มที่ 2 มีเพลง “ให้รักคุ้มครอง” เป็นเพลงรักให้กำลังใจคนที่สู้เคียงข้างกันมา หรือถ้าจะตีความให้เป็นการให้กำลังใจตัวเองก็ได้ แต่งคำร้องโดย โป โปษยะนุกุล
“กับสิ่งที่รอมันยังเลือนลาง อย่าหวั่นไปเลย หากมองไปแล้วไม่เจอ จะอยู่จะตาย จะเดินเคียงเธอ จะกลัวทำไม ในเมื่อเธอยังมีฉัน จากสิ่งที่ฝันกันมา ที่ทุ่มเทมา ทำไมเธอจะไปจากฝัน จะเหนื่อยจะล้าเพียงใด จะเหน็บหนาวใจเท่าไร แต่คนเราต้องมีหวัง ฝัน จะมีความหมายอะไร หากไม่มีเธอ ทุกอย่างก็หมดความหมาย”
อีกเพลงคือ “หลังฝน” เพลงช้าให้กำลังใจในยามที่ชีวิตยากลำบาก เจ็บปวด ประสบปัญหา ด้วยเนื้อเพลงที่บอกว่า “พายุที่มันพัดผ่าน หอบฝนมา ฟ้ามืดหม่นสักเท่าไร เราอาจจะต้องหนาว ต้องทรมาน แต่ไม่นานก็คงจางหาย มันเป็นเหมือนกำลังใจจากฟ้า ส่งมาให้คนรู้ว่าชีวิตมีค่า แค่อย่าเพิ่งถอดใจ”
“Bodyslam” เพลงที่บ่งบอกความเป็นบอดี้สแลมได้ดีที่สุด (ณ เวลานั้น) ถึงขนาดเอาชื่อวงมาตั้งเป็นชื่อเพลง เนื้อหาเพลงพูดถึงคนที่มุ่งมั่นทำตามใจฝันแม้ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
“แม้ยับเยิน บาดเจ็บสักเท่าไร ยังยืนยัน นี่แหละคือชีวิตที่ต้องการ แค่ได้ทำสิ่งนั้นที่ใจฝัน ต่อให้เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เราจะสร้างความฝันด้วยตัวเราเอง”
อัลบั้ม Believe เข้าสู่ยุคชีวิตและความฝัน (บอดี้สแลมมักจะโดนล้อว่าเขียนเพลงที่เต็มไปด้วยคำว่า “ชีวิต” และ “ความฝัน”) เปิดอัลบั้มแทร็กแรกด้วย “ชีวิตเป็นของเรา” เพลงที่กระตุ้นให้ทุกคนใช้ชีวิตของตัวเองทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้องโดยไม่ต้องสนว่าจะดีในแบบของคนอื่นหรือไม่
“ให้คิดให้ทำตามใคร ก็รู้ว่าคงดีแน่ แต่เกิดมาทั้งที ต้องทำที่ใจอยาก ชีวิตที่เป็นตัวเอง ก็รู้ว่ามันยาก แต่มันต้องขอลองสักครั้ง … ชีวิตจะเป็นแบบไหนคงต้องเลือกเอา ด้วยตัวของเรา ด้วยใจของใครของมัน ชีวิตที่เป็นแบบนี้คงไม่ว่ากัน ก็ชีวิตมันเป็นของเรา”
“ความเชื่อ” เพลงนี้ทั้งชีวิต ความฝัน ความล้มเหลวมาครบ เนื้อหาว่าด้วยคนที่เชื่อในความฝัน แม้ว่าจะล้มเหลวไปไม่ถึงจุดหมายก็ยังมีความเชื่อและจะสู้ต่อ เพลงนี้พิเศษตรงที่ได้ “แอ๊ด คาราบาว” มาฟีทเจอริ่ง เติมพลังให้เพลงได้เป็นอย่างดี และถือว่าเป็นเพลงที่แปลกใหม่ในยุคนั้นที่มีการร่วมงานข้ามสายดนตรี
“ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่ มันจะไปจบที่ตรงไหน แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งหนึ่งเคยก้าวไป แค่คนที่เชื่อในความฝัน จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป” ทำเอาวัยรุ่นไทยฮึดออกไปตามฝันกันทั้งประเทศเลยจ้า
อัลบั้ม 4 Save my life
“อกหัก” เพลงให้กำลังใจคนอกหัก ที่ไม่ใช่แค่ให้กำลังใจ แต่เป็นเพลงที่เหมือนมาดึงให้คนที่ผิดหวังคิดจะทำร้ายตัวเองได้มีสติ หันมารักตัวเอง
“ภาวนาให้ใจที่เจ็บจงเข้มแข็ง แม้มันจะไร้เรี่ยวแรง จะฝืนลุกยืนให้ไหว คนคนเดียวมันไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น ไม่ทำให้ช้ำถึงตาย ยังไงต้องรับให้ได้ ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย แค่วันนี้หัวใจสลาย เตือนตัวเองว่าถึงยังไงฉันยังต้องอยู่ ความรักลวงหลอกมันก็แค่เจ็บปวด ไม่มีค่า ให้มันทำลายชีวิตไม่ได้” ดีงามไม่มีที่ติ
“เสี้ยววินาที” อีกเพลงปลุกใจให้ฮึดสู้ เคยถูกใช้เป็นเพลงธีมการแข่งขันกีฬาอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว ด้วยเนื้อหาและจังหวะเร่งเร้าหัวใจก็เหมาะที่จะฟังขณะซ้อมกีฬาที่ต้องการเร่งความเร็ว
“ทุก ๆ เกม เราอาจเคยพ่ายแพ้ ทุก ๆ คราว แม้ไม่เป็นอย่างหวัง แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกวัน ทุก ๆ ที มันอาจเป็นทีใคร รู้ไว้เลย ไม่ใช่ทีสุดท้าย จะอย่างไรคงต้องวัดกัน วินาทีที่เราต้องไปให้ถึง วินาทีที่เราไม่ยอมแพ้ ไม่มีสิ่งไหนจะหนักเกินไป ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ นาทีนี้ ตรงนี้ เป็นของเรา มาทำวันนี้ให้เป็นตำนาน ฝากไว้ให้นานเท่านาน เพื่อสิ่งนี้ที่หัวใจ เราต้องการ (เราร่ำร้อง)”
อัลบั้ม 5 คราม
“แสงสุดท้าย” เพลงที่ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว เป็นหนึ่งเพลงเด่นในยุคหลังของบอดี้สแลมที่แม้ไม่ใช่เพลงที่ฮิตมากเมื่อคราวโปรโมตอัลบั้ม แต่เป็นเพลงที่โดดเด่นในทุกคอนเสิร์ต
“ในค่ำคืนที่ฟ้าท้าทายใจคนอยู่ตรงนี้ และฉันยังคงก้าวไป ยังคงมีรักแท้เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง นาทีที่ความฝันนั้นพร้อมเป็นเพื่อนตาย เส้นทางนี้ฉันยังมีจุดหมาย ตราบใดที่ปลายท้องฟ้ามีแสงรำไร จะไปจนถึงแสงสุดท้าย” ฟังแล้วมีพลังมากจริง ๆ เป็นเพลงที่โคตรจะสมบูรณ์แบบ
อัลบั้ม 6 ดัม-มะ-ชา-ติ
“เรือเล็กควรออกจากฝั่ง” เพลงที่ถูกส่งออกมาเป็นซิงเกิลแรกของอัลบั้ม เนื้อหาว่าด้วยการ ให้แง่คิดว่าอย่ากลัวอุปสรรคปัญหา เพราะปัญหาจะทำให้คนแข็งแกร่ง
“จะออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ มองไปไม่มีหนทาง ชีวิตฉันต้องล่มลงใช่ไหม หัวใจคำราม ฟ้าครามไม่สร้างใคร ทะเลจะสร้างคน ด้วยอันตราย พายุ ถั่งโถม สักเพียงไหน จะไม่ยอมแพ้คำขู่ เรียนรู้ และสู้ไป”
“ชีวิตยังคงสวยงาม” ซิงเกิลที่ 3 ของอัลบั้ม อีกหนึ่งเพลงที่เพราะทั้งเนื้อหาและดนตรี เพลงที่บอกว่า ไม่มีอะไรจะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าสุข หรือทุกข์ ล้วนแต่หมุนเวียนสลับกันไปมา จงยิ้มรับทุกสิ่ง และมีความหวังว่าสิ่งดี ๆ จะเข้ามา
“จะยิ้มรับมันวันที่ใจอ่อนแอ แม้ทุกเรื่องราวมันยังคงโหดร้าย สุขทุกข์ที่เราพบพาน มันคือชีวิตของเรา แม้ทั้งหัวใจมันยังคงทรมาน แม้ว่าน้ำตายังไม่แห้งเหือดไป กอดไว้ทุกความหมองหม่น ไม่ว่าจะร้ายดี ชีวิตยังคงสวยงาม”
“ความฝันกับจักรวาล” เพลงที่ดนตรีดีงามอลังการม๊ากกก ส่วนเนื้อหา พี่ตูนบอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการไปเล่นดนตรีในทัณฑสถาน ว่าด้วยเรื่องราวของคนที่ถูกจำกัดพื้นที่ แต่ขอแค่ยังมีความฝันส่องนำทางให้ชีวิตมีความหวัง
“บอกกับฟ้า หนึ่งคนนี้จะใช้ชีวิตให้มีความหมาย โปรดยังเมตตาให้ดาวพร่างพราย ส่องนำทางชีวิต เมื่อยามทุกข์ทนเดียวดาย ให้มีความหมาย หากหนึ่งชีวิตมืดมนแค่ไหน ค่ำคืนยังมีความฝัน ชีวิตมืดหม่น ให้ทุกค่ำคืนมีความฝัน… ยังมีฝัน… ทุกคืนในคุกสีคราม เพียงความฝันก็สุขใจ”
ครบถ้วนทุกอัลบั้ม ใครชอบเพลงไหนก็ฟังวนกันไปเลยจ้า
