Thailand Pass แจงระบบไม่ล่ม เร่งเพิ่มสถานะลงทะเบียน-รายชื่อโรงแรม

ไทยแลนด์พาส
ภาพจากเฟซบุ๊ก DGA Thailand

DGA แจงยิบระบบ Thailand Pass ไม่เคยล่ม ใช้งานได้ดี เพิ่มสถานะอัพเด9การลงทะเบียน-รายชื่อโรงแรมที่ผูกกับโรงพยาบาลที่ตรวจ RT-PCR เข้าไปในระบบ เพิ่มความสะดวกการใช้งาน

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 นอกจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) หรือ DGA  จะมีบทบาทในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ล่าสุดยังเข้ามารับผิดชอบดูแลระบบลงทะเบียนของ “Thailand Pass” รองรับการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมาด้วย

แต่แค่เปิดระบบได้ไม่กี่วันก็มีกระแสดราม่าตามมา  โดยเฉพาะกรณีที่นักท่องเที่ยวไม่ได้รับ QR Code หรือได้รับล่าช้า

ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากเปิดให้บริการเว็บเบส “Thailand Pass” เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ปัญหาใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้น คือ ผู้ลงทะเบียนไม่ได้รับ QR Code หรือได้รับล่าช้ามาจาก 7 สาเหตุ คือ

1.การอัพโหลดเอกสารวัคซีน ไม่ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ระบุไว้ในเอกสาร เอกสารไม่ชัด เบลอ 2.กรอกข้อมูลไม่ตรงตามไอเท็มที่กำหนด 3.โรงแรมไม่ได้ผูกกับโรงพยาบาลที่ได้รับตรวจ RT-PCR 4.ลงข้อมูลซ้ำหลายครั้ง เป็นผลให้การอนุมัติมีความสับสน 5.กรอกอีเมล์ผิด หรือไม่ครบ ทำให้ส่งข้อมูลไปยังผู้ลงทะเบียนไม่ได้

6.ผู้เดินทางไม่เผื่อระยะเวลาที่ต้องลงทะเบียนเอกสารใหม่ กรณีเอกสารไม่ผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติม และ 7.แนบไฟล์เอกสารผิด ไม่ตรงตามหัวเรื่อง

ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ
ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล

แจงยิบ ระบบไม่ล่ม

ดร.สุพจน์ชี้แจงว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่การสื่อสาร เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจว่าเมื่อเปิดระบบ 1 พ.ย.จะได้รับอนุมัติทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ระบบเปิดให้บริการได้ ไม่เคยล่ม แต่การอนุมัติต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสารอย่างช้า 7 วัน ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งสื่อสารประเด็นนี้ใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทางได้

ระบบ Thailand Pass เริ่มเปิดให้ลงทะเบียน 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสาร 7 วัน ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย ช่วง 1-7 พ.ย.ไม่ได้ใช้ระบบ Thailand Pass แต่ยังใช้หนังสือรับรองการเดินทาง (The Certificate of Entry : COE) ที่ต้องขอจากกระทรวงการต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใช้ระบบ Thailand Pass จะเริ่มทยอยเข้ามาตั้งแต่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (1-7 พ.ย.) เป็นกระบวนการของระบบเดิม คือ COE

สำหรับข้อมูลย้อนหลังในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass 97,052 คน ได้รับการอนุมัติแล้ว 56,835 คน และส่งเอกสารแล้วได้รับการอนุมัติทันที 27,836 คน คิดเป็น 1 ใน 3 ของคนที่ลงทะเบียน

“สาเหตุที่ไม่สามารถอนุมัติได้ทันที เนื่องจากบางประเทศไม่มี Vaccine Certificate หรืออยู่ระหว่างการติดต่อกับประเทศนั้น ๆ ทำให้ต้องใช้คนในการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสาร”

Thailand Pass
ภาพจากเฟซบุ๊ก DGA Thailand

เร่งปิดทุกจุดอ่อน เพิ่มสถานะอัพเด9การลงทะเบียน

ดร.สุพจน์ย้ำว่า เราไม่สามารถเดาปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ และในฐานะผู้พัฒนาระบบต้องแก้ไข และพัฒนารูปแบบไปเรื่อย ๆ ตามความต้องการของหน่วยงาน ดังนั้นระบบจะไม่นิ่ง แต่จะมีการปรับปรุงให้น้อยที่สุด

สำหรับแนวทางแก้ไขระยะยาวนั้น  ทันทีที่รัฐบาลประกาศว่าจะเปิดระบบ Thailand Pass 1 พ.ย. DGA ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบก็ได้ขึ้นระบบได้ตามกำหนดที่วางไว้ หลังจากใช้งานมาก็ไม่เคยเจอปัญหาระบบล่ม แต่เจอหลาย ๆ ปัญหา เช่น กรอกอีเมล์ผิด เป็นต้น โดย 2 เรื่องหลักที่เตรียมจะปรับ คือ พัฒนาให้สามารถติดตามสถานะการลงทะเบียนได้ และการเพิ่มรายชื่อโรงแรมที่ผูกกับโรงพยาบาลที่ตรวจ RT-PCR เข้าไปในระบบ เพื่อให้การใช้ง่ายและการอนุมัติรวดเร็วขึ้น

โดยสรุปแล้วผลลัพธ์ของการใช้ระบบ Thailand Pass ถือว่าประสบความสำเร็จ รองรับการใช้งานได้ในจำนวนมาก ๆ และระบบไม่ช้า เพราะการันตีว่าการอนุมัติจะแล้วเสร็จใน 7 วัน แต่เมื่อมีเป้าหมายใหม่ว่าต้องอนุมัติภายใน 3 วัน ทางกรมควบคุมโรค และกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเตรียมเสริมกำลังคนเข้ามา เพื่อตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ให้ตรวจสอบและอนุมัติเอกสารได้ใน 3 วันตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

ทั้งนี้ หากเทียบระหว่าง COE กับ Thailand Pass พบว่า การพัฒนาระบบ Thailand Pass…ถ้าเราทำระบบให้ยาก ต้องกรอกข้อมูลจำนวนมาก ผู้ใช้งานก็จะไม่สะดวก แต่พอให้กรอกง่ายขึ้นก็มีปัญหา ดังนั้นอาจไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบที่สุด สะดวกที่สุด แต่ DGA ก็พยายามคัดกรองด้วยระบบมากที่สุด หากเทียบกับระบบ COE ต้องบอกว่า ระบบ Thailand Pass สะดวกกว่า

เนื่องจากระบบเดิมต้องไปขอเอกสารที่สถานทูตแล้วถือเอกสารเข้ามา เวลาเดินทางเข้ามาแล้วต้องใช้เวลาในการตรวจเอกสารค่อนข้างนาน ขณะที่ Thailand Pass กรอกเอกสารล่วงหน้า และนำ QR Code มาแสดงเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย