รัสเซียตั้งเป้าขายพลังงานให้ชาติเอเชียมากขึ้น แต่จำต้องให้ส่วนลดสูงลิ่ว

ปูติน ท่อส่งก๊าซ
(แฟ้มภาพ) วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ลงนามในท่อระหว่างพิธีทำเครื่องหมายการเชื่อมจุดเชื่อมแรกของท่อส่งก๊าซหลัก "พลังแห่งไซบีเรีย" เพื่อส่งให้กับคู่ค้าภาคตะวันออก เช่น จีน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 (Photo by ALEXEY NIKOLSKY / RIA NOVOSTI / AFP)

รัสเซียหันหน้าพึ่งจีน อินเดียให้ซื้อน้ำมันและถ่านหินมากขึ้น แต่การคว่ำบาตรจากตะวันตกส่งผลให้รัสเซียต้องเสนอส่วนลดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 รายงานจากเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ นำเสนอสกู๊ปสำคัญเรื่องอนาคตการขายพลังงานของรัสเซียสู่ประเทศในเอเชีย หลังถูกชาติตะวันตก ซึ่งเป็นคู่ค้าดั่งเดิมคว่ำบาตร หลังรัสเซียรุกรานยูเครน

จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลาทั้งสิ้น 73 วัน หลังรัสเซีย ประกาศโจมตียูเครน และโลกก็ได้รับผลกระทบจากความบาดหมางนี้ จนถูกคาดการณ์ว่า อาจนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ของโลกในศตวรรษนี้ แต่เวลาที่ยืดเยื้อถึงวันนี้ ก็ได้สร้างผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ในโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องราคาพลังงาน

รายงานดังกล่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของรัสเซียที่ชื่อ แกรนด์ อานิวา (Grand Aniva) จะบรรจุก๊าซธรรมชาติเหลวชนิดเย็นจัดแล่นจากแหล่งก๊าซธรรมชาติในรัสเซียตะวันออก มีจุดหมายคือคลังน้ำมันในญี่ปุ่นและไต้หวัน

แต่หลังจากรัสเซียบุกยูเครนได้ 2 วัน เรือลำดังกล่าว ก็เปลี่ยนเส้นทางแล่นไปจีนแทน

การเปลี่ยนทิศทางเรือส่งก๊าซธรรมชาติจากญี่ปุ่นและไต้หวัน เป็นจีน ตอกย้ำว่า วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังคงสามารถหาผู้ซื้อพลังงานในเอเชียได้ แม้จะถูกคว่ำบาตรจากประเทศตะวันตก

การดิ้นร้นหาผู้ซื้อในเอเชีย เป็นความพยายามหลังได้รับแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้ยุติสงครามในยูเครน และสหภาพยุโรป (อียู) จะหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

ขายญี่ปุ่น ไต้หวัน ชาติตะวันตกไม่ได้ ก็เปลี่ยนไปขายจีน อินเดียเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ปูตินบอกว่า เขาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเส้นทางส่งออกพลังงานไปยังตลาดที่เติบโตรวดเร็วในทางภาคใต้และตะวันออก ซึ่งหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า จุดหมายปลายที่ชัดเจนดังกล่าว คือ จีน และ อินเดีย

ซึ่งจีน เป็นตลาดพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา และอินเดีย คือตลาดอันดับ 2 การขายให้จีน และ อินเดีย ได้ก็เหมือนครอบครองตลาดส่วนใหญ่ของโลกได้

แต่ความพยายามที่จะเปลี่ยนการส่งออกพลังงานของรัสเซียจากยุโรปไปยังเอเชีย ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ นั่นคือ รัสเซียจำเป็นต้องเสนอส่วนลดที่สูงลิ่ว เพื่อให้การส่งออกน้ำมันและถ่านหินคุ้มกับความเสี่ยงและต้นทุนของผู้ซื้อ อีกทั้งยังต้องสร้างท่าเรือและท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมสำหรับการส่งออกด้วย

เพราะการเปลี่ยนเส้นทางก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปยังเอเชียจากยุโรปจะต้องสร้างท่อส่งก๊าซที่ยาวมาก รวมถึงต้องสร้างท่าเรือเฉพาะทาง เช่น บนเกาะ Sakhalin ของรัสเซียที่เรือ Grand Aniva แล่นผ่าน เพราะท่าเรือดังกล่าวสามารถระบายความร้อนจากก๊าซธรรมชาติได้มากจนควบแน่นเป็นของเหลว ซึ่งสามารถจัดส่งทางเรือได้

การส่งน้ำมันไปยังเอเชียจะต้องมีการขนส่งทางเรือ แต่เนื่องจากการคว่ำบาตรทางการเงินของชาติตะวันตกต่อกรณีการรุกรานยูเครน ส่งผลให้บริษัทประกันปฏิเสธที่จะคุ้มครองสินค้ารัสเซียให้กับเรือบรรทุกน้ำมัน

อีกทั้ง ธนาคารปฏิเสธที่จะให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ซื้อน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติรัสเซียระหว่างที่ขนส่ง ซึ่งมีผลให้บริษัทน้ำมันในประเทศอย่างอินเดีย เรียกร้องส่วนลดจากรัสเซียในวงเงินที่สูงมาก เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

อุปสรรครัสเซียส่งออกพลังงานในยุคถูกตะวันตกคว่ำบาตร

ส่วนการส่งออกถ่านหิน ซึ่งสามารถใช้รถบรรทุกหรือรถไฟส่งไปจีนได้ เผชิญกับอุปสรรคด้านโลจิสติกส์น้อยที่สุด แต่การส่งออกถ่านหินของรัสเซียมีมูลค่าเพียง 1 ใน 10 ของการส่งออกน้ำมันและ 1 ใน 4 ของการส่งออกก๊าซธรรมชาติ ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรกลางของรัสเซีย

และการถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกในการใช้เงินสกุลดอลลาร์ทำธุรกรรมกับรัสเซียก็ทำให้ความต้องการถ่านหินของรัสเซียในตลาดโลกลดลงด้วย

“แม้แต่ผู้ค้าถ่านหินของจีนในทุกวันนี้ ก็ไม่ต้องการแตะต้องถ่านหินของรัสเซีย เพราะกลัวว่าจะถูกคว่ำบาตรจากตะวันตก” โจว ซีโจว ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจีน ซึ่งปัจจุบันทำงานที่ S&P Global กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้รัสเซียจะประสบอุปสรรคหลายด้านสำหรับการส่งออกพลังงานไปชาติตะวันออก แต่ผู้นำด้านพลังงานทั่วโลกกำลังเดิมพันว่ารัสเซียจะสามารถหาวิธีส่งออกน้ำมันและถ่านหินได้

เพราะตอนนี้ดีมานด์พลังงานทั่วโลกยังสูง โลกขาดแคลนพลังงานตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง เมื่อถ่านหินจีนใกล้จะหมดลงและไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เหล่านี้ยังส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีที่แล้ว

ดังนั้น การสกัดไม่ให้พลังงานของรัสเซียเข้าถึงตลาดโลก ก็ยังส่งผลให้พลังงานเหล่านั้นเป็นที่ต้องการสูงขึ้นไปอีก

ดาเนียล เยอร์จิน นักประวัติศาสตร์ด้านพลังงานและผู้แต่งหนังสืออย่าง The Prize และ The New Map กล่าวว่า นี่อาจเป็นวิกฤตด้านพลังงานที่สำคัญยิ่งกว่าทศวรรษ 1970 เพราะตอนนั้นเป็นเพียงน้ำมัน มันง่ายกว่า (แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่น้ำมัน)

ขณะที่ ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานบางรายเรียกร้องให้มีนโยบายที่ไม่ขัดขวางการส่งออกพลังงานของรัสเซียโดยสิ้นเชิง และควรตั้งเป้าหมายคือการทำให้รัสเซียส่งออกได้ยากขึ้น เพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำ

น้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องกว่า 8 ล้านบาร์เรลต่อวันของรัสเซีย พุ่งเป้าจีน อินเดีย

ปัจจุบัน รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบเกือบ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และน้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน และผลิตภัณฑ์กลั่นอื่นๆ อีก 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จีนและอินเดียมีอุตสาหกรรมโรงกลั่นที่กว้างขวาง และโดยทั่วไปแล้วจะมีความสนใจในน้ำมันดิบ

ก๊าซธรรมชาตินั้นยากกว่าสำหรับรัสเซียในการส่งออก ตามรายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ รัสเซียมีความสามารถในการทำให้เป็นของเหลวและบรรจุลงเรือได้เพียงประมาณหนึ่งในสิบของการส่งออกก๊าซธรรมชาติ การขนส่งส่วนใหญ่ที่หลอมเหลวได้ถูกส่งไปยังเอเชียตะวันออกแล้ว โดยส่วนใหญ่เหลือจากทางตอนใต้สุดของเกาะ Sakhalin ใกล้ประเทศญี่ปุ่น

ตามรายงานของ Marine Traffic ซึ่งเป็นบริการติดตามเรือในเอเธนส์ซึ่งตรวจสอบตำแหน่งของเรือ Grand Aniva เปลี่ยนจากการจัดหาญี่ปุ่นและไต้หวันเมื่อปีที่แล้วเป็นการจัดหาจีนในช่วงสองเดือนนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย

Grand Aniva เป็นหนึ่งในเรือบรรทุกน้ำมันไม่กี่ลำที่ยังคงเทียบท่าเรือรัสเซีย มี Sovcomflot ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือของรัสเซียที่รัฐเป็นเจ้าของ เป็นผู้ดำเนินการ และบริษัทนี้ก็ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกด้วย

ในการเดินทางครั้งล่าสุดในช่วงกลางเดือนเมษายน Grand Aniva ได้เดินทางจากเกาะ Sakhalin ไปยัง L.N.G. ท่าเรือขนถ่ายในเป๋ยไห่ บนชายฝั่งทางใต้ของจีน ซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทโรงกลั่นยักษ์ใหญ่ของจีนที่รัฐเป็นเจ้าของ

และมีท่าเรือที่สร้างเสร็จโอนแล้วเมื่อ 3 ปีก่อนไปยัง PipeChina ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแยกต่างหากจาก Sinopec, PipeChina และ Sovcomflot

ภูมิรัฐศาสตร์ช่วยให้การส่งออกพลังงานของรัสเซียดำเนินต่อไปได้ จีนหลีกเลี่ยงการประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครน และมีประวัติการซื้อน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลา แม้ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตกต่อประเทศเหล่านั้น

“ชาวจีนได้พบวิธีแก้ปัญหาสำหรับน้ำมันอิหร่าน สำหรับน้ำมันเวเนซุเอลา” มิชาล เหมยดาน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยก๊าซและพลังงานของจีนที่สถาบันออกซ์ฟอร์ดเพื่อการศึกษาพลังงานกล่าว “พวกเขาจะพบวิธีแก้ปัญหาสำหรับน้ำมันรัสเซีย”

รัสเซียกำลังเพิ่มการจัดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังจีนผ่านท่อส่งไซบีเรียที่เพิ่งเสร็จสมบูรณ์ แต่เนื่องจากแหล่งก๊าซไซบีเรียของรัสเซียไม่ได้เชื่อมโยงกับท่อส่งก๊าซไปยังแหล่งก๊าซของรัสเซียที่ส่งไปยังยุโรป จึงมีข้อจำกัดที่สำคัญเกี่ยวกับความสามารถของรัสเซียในการย้ายการขายก๊าซไปยังจีน

การค้ารัสเซีย-จีน ไตรมาสแรกปีนี้ โต 30%

อย่างไรก็ตาม การค้าระหว่างรัสเซียและจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกพลังงานของรัสเซีย พุ่งขึ้นเกือบ 30% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

การเพิ่มขึ้นดังกล่าว “แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ถึงความยืดหยุ่นอันยิ่งใหญ่และพลวัตภายในของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ” เล ยู่เฉิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวในแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว “ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะเสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์กับรัสเซียเช่นเคย”

ตำแหน่งทางการตลาดของรัสเซียอาจดีขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง น้ำมันของรัสเซียส่วนใหญ่มีน้ำหนักมาก ทำให้ผลิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเมื่อกลั่น รัสเซียส่งออกน้ำมันดีเซลมากกว่าน้ำมันเบนซินมากกว่า 10 เท่าในปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรกลางของรัสเซียระบุ

ตลาดดีเซลหลักของโลกคือจีน โดยมีรถบรรทุกสำหรับงานหนักเกือบสองเท่าที่เปิดให้บริการในสหรัฐฯ การล็อกดาวน์ป้องกันไวรัสโควิดในจีน ทำให้กองเรือของจีนจำนวนมากเป็นอัมพาตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในและรอบ ๆ เซี่ยงไฮ้

ความต้องการดีเซลในจีนอาจพลิกกลับโดยสิ้นเชิงในฤดูใบไม้ร่วง เพราะจีนกำลังหันไปใช้กลยุทธ์อีกด้านจากก่อนหน้านี้ ด้วยการเตรียมการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทางรางรถไฟ สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ  และการก่อสร้างทั้งหมดจะต้องใช้รถบรรทุกดีเซลขนาดใหญ่ รถขุด รถตอกเสาเข็ม รถปราบดิน และอุปกรณ์อื่นๆ