คอลัมน์

ข้อถกเถียงเรื่องขายชาติ

นักท่องเที่ยวต่างชาติ
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

ดึงดูดต่างชาติ กับ ขายชาติ เป็นคำที่มีความหมายต่างขั้วกัน คำแรกถ้าทำได้ดีจะถือเป็นผลงานด้านบวก ส่วนคำหลังเป็นเรื่องอ่อนไหวทางการเมืองเป็นพิเศษ จึงเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่กล้าออกตัวแรงในนโยบายเปิดให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดิน แม้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …

หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย นานาประเทศหรือดินแดนพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงคนต่างชาติเข้าไปลงทุนหรือพัฒนาในประเทศของตัวเอง เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮ่องกงพยายามจะฟื้นฟูสถานะฮับด้านการเงินและเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย ด้วยการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อดึงชาวต่างชาติที่มีทักษะวิชาชีพเฉพาะด้านอย่างน้อย 13 อาชีพกลับไป หลังเสียศูนย์ไปมากจากนโยบายส่วนกลางของจีนที่ควบคุมโควิด รวมถึงการควบคุมความเคลื่อนไหวทางการเมือง

กรณีนี้ไม่ถูกครหาว่าขายชาติ เพราะฮ่องกงเป็นศูนย์รวมธุรกิจต่างชาติอยู่แล้ว แต่ถูกวิจารณ์ในแง่ที่ว่าขยับช้าจนเสียโอกาสไปมากให้กับสิงคโปร์ หลังสถานการณ์โรคระบาด

สำหรับไทย ฝ่ายบริหารก็รับอยู่กลาย ๆ ว่าไม่ค่อยจะมีเงินแล้ว หลังทุ่มกับการจ่ายเยียวยาและบริหารจัดการในช่วงโควิดระบาด ดังนั้นต้องหาทางเพิ่มรายได้เข้าประเทศที่นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยว ซึ่งขยับแล้วแต่ก็ไม่ได้ขึ้นพรวดพราดกลับไปเป็นเหมือนก่อน

การปัดฝุ่นให้สิทธิคนต่างด้าวที่มาลงทุนในประเทศตามที่กำหนดซื้อที่ดินได้ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุนของประเทศ โดยปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้ดึงดูดชาวต่างชาติฐานะดีได้มากขึ้นและสะดวกขึ้น จึงเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ หากทำรายได้รวมที่อาจสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท

ปัญหาของเรื่องนี้จริง ๆ แล้วไม่น่าจะติดขัดว่าขายชาติหรือขายไม่ออก แต่เป็นกระบวนการทางการเมืองที่ไม่ได้เปิดกว้างให้สาธารณชนมีส่วนร่วมก่อนมีร่างกฎกระทรวง และมีมติ ครม. ทั้งที่รู้ว่าประเด็นขายชาติจะต้องเกิดขึ้น

เมื่อเทียบกับการออกกฎกระทรวงฉบับปี 2545 แม้ถูกโจมตีด้วยวาทกรรมขายชาติเช่นกัน แต่การดำเนินการทางการเมืองครั้งนั้นปลอดโปร่งและรัดกุมกว่า เพราะกลไกทางประชาธิปไตยแข็งแรงกว่า

กรณีนี้ควรเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันด้วยข้อมูล ประเมินผลได้ผลเสียที่ลงลึกในรายละเอียดอย่างกว้างขวางเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงร่วมกันของสังคมว่าจะร่วมสร้างเศรษฐกิจอย่างไรเพื่อไม่ถูกครหาว่าขายชาติ