
คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-17 มี.ค.) ผันผวนเชิงลบ โดย “กรภัทร วรเชษฐ์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงค่อนข้างรุนแรง จากปัจจัยกดดันเรื่องของสภาพคล่องธนาคารในสหรัฐและยุโรป ทั้งกรณี Silicon Valley Bank (SVB), ธนาคาร Silvergate และธนาคาร Signature ในสหรัฐ รวมถึงธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ในสวิตเซอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม สถาบันคุ้มครองเงินฝากได้เข้ามาช่วยดูแลเงินฝากและธนาคารกลางก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องสภาพคล่อง ทำให้หลังจากที่หลายฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ตลาดมีความเบาใจลง และเห็นดัชนีฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นในช่วงปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลมากขึ้นในเรื่องของการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลาง หลังจากเกิดเหตุการณ์สภาพคล่องธนาคารในครั้งนี้
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- Café Amazon เฉลยเอง ไวรัลนกหน้าร้านสะดวกซื้อ กำลังจะเกิดอะไรขึ้น?
- ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต อายุ 55 ปี หลังซ้อมแข่งรถที่บุรีรัมย์
มองไปในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า (20-24 มี.ค.) “กรภัทร” ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยให้กรอบแนวต้านไว้ที่บริเวณ 1,600-1,610 จุด และแนวรับที่บริเวณ 1,540-1,535 จุด
ทั้งนี้ ต้องติดตามประเด็นสำคัญ คือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย ล่าสุดตลาดคาดว่าจะปรับขึ้น 0.25% พร้อมกับส่งสัญญาณในการที่จะเข้ามาช่วยอุ้มระบบการเงินหลังจากนี้ ซึ่งตลาดน่าจะตอบรับในเชิงบวก นอกจากนี้ มีประเด็นสำคัญภายในประเทศเรื่องการยุบสภาและการเลือกตั้งครั้งใหม่
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เลือกหุ้นในกลุ่ม domestic play และหุ้นที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก อย่างหุ้นแบงก์ ได้แก่ KBANK และ SCB รวมถึง BGC และ AMATA ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว