คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า [email protected]
เป็นข่าวฮือฮาเมื่อโรงแรมหรูในภูเก็ตประกาศอวดค่า “เซอร์วิสชาร์จ” ผ่านหน้าสื่อแข่งขันกันอย่างคึกคัก บางแห่งจ่ายสูงถึง 8-9 หมื่นบาทต่อคนต่อเดือน สูงกว่าในช่วงก่อนโควิดด้วยซ้ำ แถมบางแห่งยังมีโบนัสตอนสิ้นปีด้วย
หลายคนถามว่า กระแสที่ออกมานี้เป็นการส่งสัญญาณว่า ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตกลับมาดีกว่าช่วงก่อนโควิดอย่างชัดเจนแล้วใช่ไหม
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
จากที่ดิฉันมีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารโรงแรมหลายแห่ง ทุกคนพูดตรงกันว่า วันนี้ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมยังโตในแบบที่เรียกว่า K Shape
กล่าวคือ โรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรมใหญ่ที่เป็นเครือข่ายของแบรนด์อินเตอร์ เป็นกลุ่มขาของตัว K ที่ชี้ขึ้นข้างบน มีศักยภาพทั้งด้านเงินทุน การตลาด และดึงดูดแรงงานเข้าไปทำงาน
กลุ่มนี้ 100% ได้ปรับขึ้นราคาขายห้องพักไปสูงกว่าช่วงก่อนโควิดไปตั้งแต่กลางปี 2566 แล้ว
ส่วนโรงแรมขนาดเล็ก หรือกลุ่มระดับ 3-4 ดาวลงมา คือ กลุ่มของขาของตัว K ที่ชี้ลงข้างล่าง กลุ่มนี้มีทั้งในจังหวัดท่องเที่ยวหลักและกระจายอยู่ในจังหวัดเมืองรอง ซึ่งต้องยอมรับว่าจนถึงปัจจุบันก็ยังเหนื่อยหนัก
เจอทั้งปัญหาลูกค้าไม่พอ รายได้ไม่สอดรับกับต้นทุนบริหาร เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนหรือเงินกู้ และประสบปัญหาขาดแรงงานทักษะ
ธุรกิจจึงยังไม่สามารถกลับมาแข่งขันได้
ผู้บริหารโรงแรมขนาดกลางรายหนึ่งเล่าว่า นอกจากปัญหาเรื่องเงินทุนแล้ว ปัญหาใหญ่ของโรงแรมขนาด 3-4 ดาว คือ เรื่องของแรงงาน
โรงแรมขนาดใหญ่ต้องการแรงงานที่มีทักษะ และพร้อมจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง ทำให้แรงงานส่วนใหญ่อยู่กับโรงแรมขนาดกลางไม่กี่เดือน พอทำงานเป็นก็จะลาออกไปอยู่โรงแรม 5 ดาว กันหมด
ยิ่งระยะหลังนี้ โรงแรมหรูในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต กรุงเทพฯ หันมาชูเรื่อง “เซอร์วิสชาร์จ” ยิ่งเป็นสิ่งจูงใจให้แรงงานทักษะไหลไปอยู่ในกลุ่มโรงแรมหรูกันหมด
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าธุรกิจโรงแรมนั้นมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมาต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อปลายปี 2565 เพราะในช่วง 3 ปีที่เกิดโควิด แรงงานส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนอาชีพและไม่กลับเข้าสู่ระบบอีก
ขณะเดียวกันต้นทุนการบริหารจัดการ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน อาหาร ฯลฯ ก็ปรับสูงขึ้น
โรงแรมเล็กไม่สามารถปรับขึ้นราคาห้องพักได้ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ โรงแรมใหญ่ยังรองรับได้
ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ออกเดินทางในช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นกลุ่มระดับบนเป็นหลัก เนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินยังมีราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับก่อนโควิด
ดังนั้น จึงเห็นว่ายังมีโรงแรมอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการ และก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ประกาศขายกิจการให้เห็นอยู่
ดังนั้น การที่โรงแรมหรูประกาศจ่าย “เซอร์วิสชาร์จ” เกือบแสนออกมาแบบนี้ แรงงานทักษะแห่แหนไปซบอกแน่ ซึ่งจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมโรงแรมรายเล็กอีกแน่นอน