บทบรรณาธิการ
กระแสข่าวเจ้าของบัญชีธนาคารหลายแห่งจำนวนหลายหมื่นรายถูกตัดเงินออกจากบัญชีทั้งที่ไม่ได้ทำธุรกรรม ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชนจำนวนมาก หลังข่าวนี้แพร่สะพัดทั้งในสื่อหลักสื่อโซเชียลยิ่งทำให้ผู้ถือบัตรเครดิต บัตรเดบิตพากันวิตกกังวล เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงบั่นทอนความเชื่อมั่นของสุจริตชนที่เสียหายซ้ำซาก
ล่าสุดแม้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับสมาคมธนาคารไทยจะออกแถลงการณ์ รับทราบปัญหาและตรวจสอบพบว่า การรั่วไหลของข้อมูลไม่ได้มาจากธนาคาร แต่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และไม่ใช่แอปพลิเคชั่นดูดเงิน แต่ไม่ได้ช่วยให้ผู้ใช้บริการธนาคารออนไลน์ (e-Banking) มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เพราะการแฮกข้อมูลทางการเงินครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก และคงไม่ใช่เคสสุดท้าย หลายครั้งที่มีปัญหาอาจต่างกรรม ต่างวาระ รูปแบบวิธีต่างกัน แต่ผู้ใช้บริการ หรือแม้แต่ธนาคารเองก็ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ ธปท. กับธนาคารแต่ละแห่ง ทำได้แค่ยกระดับมาตรการคุมเข้มป้องกันข้อมูลลูกค้า และส่งสัญญาณเตือนให้เฝ้าระวัง
เนื่องจากมิจฉาชีพ เกมโกงเงินรูปแบบใหม่ กลโกงในโลกออนไลน์ แฮกเกอร์ ฯลฯ ไปไกลจนทางการจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ใครประมาทพลั้งเผลอ จะเสียรู้ได้ง่าย ภัยใกล้ตัวในโลกยุคดิจิทัลเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องระมัดระวัง เป็นพิเศษ เพราะความเสียหายไม่ได้มีแค่เงินในบัญชี อาจถูกแฮกข้อมูลสำคัญ ข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้สวมรอย เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
โชคดีที่ครั้งนี้ ธปท.กับสมาคมธนาคารไทยได้เร่งตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ และสั่งระงับการทำรายการทันที โดยแต่ละธนาคารจะแก้ไขปัญหาพร้อมเร่งคืนเงินให้ลูกค้า แม้ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ แต่ลดผลกระทบกับเจ้าของบัญชีที่ถูกแฮกดูดเงินโดยไม่รู้ตัว
เพื่อหยุดยั้งความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์ ไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งกับผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจในภาพรวม รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งยกระดับมาตรการป้องกันความเสี่ยง โดยบูรณาการทำงานสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รับมือการถูกโจมตี แฮกข้อมูล ทั้งจากภายในและนอกประเทศ
ที่สำคัญ ต้องเร่งขยายผลตรวจสอบปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพ อาชญากรทางเศรษฐกิจที่นับวันยิ่งมีมากขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงขึ้นให้เห็นผล เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ภาคเอกชน ควบคู่กับกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่ไร้ขอบเขต อย่าให้ความสะดวกสบาย ความรวดเร็วที่ได้มา ต้องแลกกับความเสี่ยง หรือความไม่ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน
