‘จุฬาฯ’ ร่วมกับ ‘แพคริม’ ใช้ 7-Habits พัฒนามายด์เซตนิสิต

พรทิพย์ อัยยิมาพันธ์

จุฬาฯ ร่วมกับ แพคริม เอ็ดดูเคชั่น นำหลัก The 7-Habits ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักธุรกิจมาบรรจุเป็นวิชาเลือกครั้งแรก พร้อมสอนในภาคการศึกษาปลายปีการศึกษา 2563

“จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ร่วมกับ “แพคริม เอ็ดดูเคชั่น” นำหลัก “The 7-Habits” มาใช้สอนนิสิต เนื่องจากทางศูนย์การศึกษาทั่วไปของจุฬาฯ เล็งเห็นว่า เนื้อหาในรายวิชานี้จะสามารถช่วยให้นิสิตมีโอกาสเพิ่มการเรียนรู้ ในแง่ของการใช้ชีวิตอย่างมีหลักการ สามารถพัฒนาตัวเองทางความคิด พัฒนาปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อให้เป็นคนที่มีคุณภาพ สามารถสร้างประสิทธิผลสูง และสามารถช่วยต่อยอดได้ในทุกสาขาอาชีพให้ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

“รศ.น.สพ.ดร. ณุวีร์ ประภัสระกูล” ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาทั่วไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ได้นำ The 7-Habits (7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูง) ที่คิดค้นโดย Dr. Stephen R. Covey ผู้ก่อตั้งสถาบัน FranklinCovey มาบรรจุภายใต้ชื่อวิชา “เรียนให้รู้ อยู่ให้เป็น” (Learning & Embracing Life Skills) ให้นิสิตจุฬาฯ ได้ลงทะเบียนเรียนเป็นวิชาเลือกในรายวิชาศึกษาทั่วไป (GenEd) เป็นครั้งแรกในภาคการศึกษาปลาย ปีการศึกษา 2563

รศ.น.สพ.ดร. ณุวีร์ ประภัสระกูล

“นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของนิสิตจุฬาฯ ที่จะได้เรียนรู้ศาสตร์นี้ตั้งแต่ในรั้วมหาวิยาลัย เพราะสามารถนำไปใช้ในการทำงานในอนาคตได้ เพิ่มทักษะวิธีการคิดเชิงรุก การกำหนดเป้าหมายของการมีชีวิต การวางแผนกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ศิลปะการฟังที่ดี เทคนิคต่าง ๆ ในการต่อรอง และการฝึกฝนการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต”

“พรทิพย์ อัยยิมาพันธ์” ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มบริษัทแพคริม กล่าวว่า PacRim Education คือตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวของสถาบัน FranklinCovey ในประเทศไทย เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท แพคริม ที่มุ่งมั่นพัฒนาผู้นำ การปรับวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติการให้ได้ผลลัพธ์ (execution) การทำทรานส์ฟอร์เมชัน และนวัตกรรมให้กับกว่า 80% ขององค์กรชั้นนำที่ติดอันดับ 500 แห่งแรกในประเทศไทย

“The 7-Habits ได้รับการยอมรับในแวดวงธุรกิจและการศึกษาทั่วโลก และการบรรจุเป็นวิชาเลือกให้นิสิตจุฬาฯได้เรียนรู้ สอดคล้องกับปณิธานของแพคริมที่ขอมีส่วนในการช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพให้กับประเทศไทย”

“นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล” (คุณหมอเส) เจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดังมาสเตอร์พีช กล่าวว่า มีผลวิจัยพบที่ระบุว่า คนที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ความรู้เชิงวิชาชีพที่เรียนมาเฉพาะด้านมีเพียง 20%  ขณะที่ 80% อาศัยทักษะ กระบวนการมายด์เซต และความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่ปฏิบัติต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นรากฐานที่มีอยู่ในหลักการของ 7 Habits

“โดยส่วนตัวแล้วจึงเชื่อว่า 7 Habits จะช่วยให้นิสิตจุฬาฯ มีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวในอนาคต และจะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อประเทศและสังคมโดยส่วนรวม”