ซีฟู้ดเจ้าสัว @THE EMSPHERE Lobster Cafe แห่งแรกในไทย

Double Live Maine Lobster
Double Live Maine Lobster

หลังประเดิมเปิดสาขาแรกในประเทศไทยไปแล้วเมื่อปลายปี 2565 ล่าสุด Red Lobster (เร้ด ล็อบสเตอร์) เชนร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ของกลุ่มตระกูลเจ้าสัว “สิริวัฒนภักดี” ได้ปักหมุดสาขา 2 ใจกลางสุขุมวิท ที่ THE EMSPHERE ของตระกูล “อัมพุช” ในคอนเซ็ปต์ “Lobster Cafe” แห่งแรกในไทย

Red Lobster ร้านอาหารทะเลมีต้นกำเนิดจากเมืองเลคแลนด์ (Lakeland) รัฐฟลอริดา (Florida) เป็นเชนร้านซีฟู้ดจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 โดย “บิลล์ ดาร์เดน” (Bill Darden) ด้วยแนวคิดว่าจะทำให้อาหารทะเลที่มีคุณภาพและอร่อยเข้าถึงคนที่อาศัยอยู่ห่างจากทะเลได้ง่ายขึ้น

หลังเปิดร้านได้ประมาณ 2 ปี Red Lobsterประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถเปิดขยายได้ 5 สาขา กระจายตัวอยู่ทางใต้ของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นเชนร้านอาหารทะเลที่โด่งดังและเติบโตในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ขยายสาขาไปประเทศต่าง ๆ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก ฯลฯ รวมแล้วมากกว่า 700 สาขาทั่วโลก จนกระทั่งปักธงที่แรกในไทย ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลังปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่

นงนุช บูรณะเศรษฐกุล
นงนุช บูรณะเศรษฐกุล

สาขา 2 ในไทยที่ THE EMSPHERE

สำหรับ Red Lobster ประเทศไทยบริหารงานโดย บริษัท เร้ด ล็อบสเตอร์ รีเทล เอเชีย จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารของ “ไทยเบฟ” โดยมี “นงนุช บูรณะเศรษฐกุล” กรรมการ บริษัท เร้ด ล็อบสเตอร์ รีเทล เอเชีย จำกัด เป็นหัวเรือใหญ่

แม้แบรนด์นี้จะมีมานานกว่า 55 ปีแล้ว แต่ยังคงเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่ จุดเด่นของ Red Lobster ในประเทศไทยยังคงเสน่ห์ตามแบบฉบับเดิมไว้เกือบทั้งหมด คือ การโฟกัสคุณภาพอาหารและความสด โดยเฉพาะล็อบสเตอร์ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ส่งตรงจากน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก และวัตถุดิบคุณภาพจากทั่วโลก เพื่อความอร่อยระดับพรีเมี่ยม

ทางร้านใช้ Live Lobster นำเข้า หรือล็อบสเตอร์สายพันธุ์เมน (Maine Lobster) ตัวเป็น ๆ เนื่องจากตัวโต ก้ามใหญ่ เนื้อแน่น เด้ง หวานสุดในบรรดาล็อบสเตอร์ เพราะอยู่ในมหาสมุทรที่เป็นกระแสน้ำเย็น ทำให้เนื้อไม่ซึมซับความเค็มของเกลือทะเล เนื้อจึงหวานกว่าล็อบสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำอุ่น

ล่าสุด Red Lobster ได้ปักหมุดสาขา 2 ในประเทศไทยแล้ว ที่ “THE EMSPHERE” ศูนย์การค้าใหม่ย่านสุขุมวิท ศูนย์รวมแฟชั่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ และความบันเทิง ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

Red Lobster สาขาใหม่ยังคงชูจุดยืนเรื่องคุณภาพ ความสด และล็อบสเตอร์สายพันธุ์เมน รวมทั้งอาหารทะเลที่หลากหลาย โดยมีล็อบสเตอร์ตัวเป็น ๆ จากมหาสมุทรแอตแลนติกอยู่ในแทงค์บริเวณด้านหน้าร้าน

สไตล์การตกแต่งของ Red Lobster สาขานี้ มิกซ์แอนด์แมตช์ในรูปแบบ “Lobster Cafe” เน้นโทนสีดำ แดง ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งคาเฟ่เท่ ๆ แต่ได้ฟีลทะเลด้วยการนำสีฟ้าเทอร์ควอยส์มาใช้ในดีเทลต่าง ๆ โดยเฉพาะลวดลายเกลียวคลื่น และมีระเบียงอีกฝั่งไว้ให้นั่งชมวิวมุมสูง

ซิกเนเจอร์เมนู ส่งตรงจากแอตแลนติก

จานแรกที่อยากแนะนำคือ เมนูซิกเนเจอร์ “Double Live Maine Lobster” (ดับเบิล ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์) ล็อบสเตอร์ตัวโตที่มาเป็นคู่ เนื้อเด้ง หวาน เสิร์ฟในสองรูปแบบสองรสชาติในจานเดียว ตัวแรกเป็นแบบ Roasted ได้รสชาติล็อบสเตอร์แท้ ๆ และอีกตัวเป็นอบชีสและเนย รสเข้มข้น หอมชีส กินคู่กับบัตเตอร์ซอส หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดของร้าน

Lobster Tail Lobster Roll
Lobster Tail Lobster Roll

ใครที่ชอบล็อบสเตอร์โรลสไตล์อเมริกัน ต้อง “Lobster Tail Lobster Roll” (ล็อบสเตอร์เทล ล็อบสเตอร์โรล) ที่อัดแน่นด้วยเนื้อล็อบสเตอร์คลุกมายองเนสและเซเลอรี่ กับขนมปังบริยอชสูตรฝรั่งเศสที่ปิ้งจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟราย

เมนูสำหรับคนชอบกินเส้นก็มี “Spaghetti Black n’ Pink with Mixed Seafood and Lobster” (สปาเกตตี้ แบล็ก แอนด์ พิงก์ วิท มิกซ์ ซีฟู้ด แอนด์ ล็อบสเตอร์) สปาเกตตี้เส้นหมึกดำพิงก์ซอสซีฟู้ดรวมและล็อบสเตอร์ คลุกด้วยพิงก์ซอสรสชาติเปรี้ยว ๆ ซึ่งเป็นซอสพาสต้ามะเขือเทศสูตรโฮมเมดผสมกับครีม กินคู่กับล็อบสเตอร์และซีฟู้ดรวม ทั้งคาลามารี หอยแมลงภู่ และกุ้ง

Cheesy Lobster _ Shrimp Dip
Cheesy Lobster & Shrimp Dip

สำหรับสายชีส “Cheesy Lobster & Shrimp Dip” (ชีสซี่ ล็อบสเตอร์ แอนด์ ชริมป์ ดิป) ชีสดิปสูตรลับที่มีส่วนผสมของชิ้นล็อบสเตอร์และกุ้ง เสิร์ฟพร้อมตอร์ติยาชิปส์ (แผ่นข้าวโพดกรอบ) และอีกหนึ่งซิกเนเจอร์คือ มันฝรั่งอบล็อบสเตอร์และชีส “Lobster n’ Cheese Twice Baked Potato” (ล็อบสเตอร์ แอนด์ ชีส ทไวซ์ เบค โปเตโต้)

Lobster n’ Cheese Twice Baked Potato

ในส่วนของหวานมาในสไตล์คาเฟ่ อาทิ “Mixed Berry French Toast” (มิกซ์ เบอร์รี่ เฟรนช์ โทสต์) เฟรนช์โทสต์กินคู่กับมิกซ์เบอรี่และไอศกรีมมะม่วง “Chocolate Banoffee French Toast” (ช็อกโกแลต บานอฟฟี่ เฟรนช์ โทสต์) โทสต์ช็อกโกแลตคู่กับกล้วยหอมเคลือบคาราเมลและไอศกรีมช็อกโกแลต (ราคา 250 บาท) พร้อมกับเครื่องดื่มอีกมากมาย ชา กาแฟ ม็อกเทลไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น Atlantic Blue (แอตแลนติก บลู) และ Fizzy Strawberry Lemonade (ฟิซซี่ สตรอว์เบอรี่ เลมอนเนด) เป็นต้น

Red Lobster THE EMSPHERE อยู่ชั้น GM (ชั้นทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.