พายุโนรู ซัดนาข้าวเฉียด 3 ล้านไร่ ทุบรายได้เกษตรกรกว่า 5.3 แสนราย

เกษตรฯ เตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดจากพายุโนรู ชี้ผลสำรวจล่าสุด เกษตรกร 5.3 แสนรายได้รับผลกระทบ ผลผลิต โอกาสในการสร้างรายได้กระแสเงินสดในมือของเกษตรกรลดลง พื้นที่ 4.5 ล้านไร่ นาข้าวหนักสุดเฉียด 3 ล้านไร่

วันที่ 18 ตุลาคม 2565 นายประยูร อินสกุล รักษาการปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ร่วมกับทุกหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาค (ผ่านระบบออนไลน์) ว่า

กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมเสนอโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์ฝนตกชุกสะสม และพายุดีเปรสชั่น โนรู ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 59 จังหวัด

โดยขณะนี้สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ 31 จังหวัด และยังประสบอุทกภัย 28 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อผลผลิตและโอกาสในการสร้างรายได้ที่เกษตรกรควรจะได้รับ ทำให้กระแสเงินสดในมือของเกษตรกรลดลง ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ พร้อมทั้งเร่งปรับแผนการบริหารจัดการน้ำและการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและการเพาะปลูกตามแผนบริหารจัดการน้ำ

ทั้งนี้ จากการสำรวจผลกระทบด้านการเกษตร ด้านพืช ได้รับผลกระทบ 56 จังหวัด เกษตรกร 531,703 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 4,505,862 ไร่

แบ่งเป็น ข้าว 2,991,705 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,473,553 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 40,604 ไร่ สำรวจพบความเสียหายแล้ว เกษตรกร 75,874 ราย พื้นที่ 730,327 ไร่

แบ่งเป็น ข้าว 556,677 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 170,077 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 3,573ไร่ คิดเป็นเงิน 1,097.16 ล้านบาท ให้ความช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 765 ราย พื้นที่ 3,350 ไร่ วงเงิน 5.81 ล้านบาท
ด้านประมง ได้รับผลกระทบ 42 จังหวัด เกษตรกรได้รับผลกระทบ 22,854 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 26,116 ไร่

แบ่งเป็น บ่อปลา 25,750 ไร่ บ่อกุ้ง 366 ไร่ กระชง 11,172 ตร.ม. สำรวจพบความเสียหายแล้ว เกษตรกร 537 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเสียหาย 521 ไร่ กระชัง 11 ตร.ม. คิดเป็นเงิน 2.93 ล้านบาท ให้ความช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 156 ราย พื้นที่ 264 ไร่ วงเงิน 1.52 ล้านบาท

และ ด้านปศุสัตว์ ได้รับผลกระทบ 16 จังหวัด เกษตรกร 21,625 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,337,182 ตัว แบ่งเป็น โค 52,412 ตัว กระบือ 15,378 ตัว สุกร 13,040 ตัว แพะ/แกะ 2,856 ตัว สัตว์ปีก 1,253,496 ตัว แปลงหญ้า 2,243 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยกรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 424 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 480 เครื่อง เครื่องจักรอื่น ๆ 20 เครื่อง และกระสอบทราย 12,000 กระสอบ กรมปศุสัตว์ ดำเนินการอพยพสัตว์ 20,391 ตัว แจกจ่ายหญ้าพระราชทาน 338.26 ตัน อาหาร TMR 6.50 ตัน สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ 1,002 ตัว รักษาสัตว์ 51 ตัว และสนับสนุนถุงยังชีพสัตว์ 601 ชุด และกรมประมง สนับสนุนเรือตรวจการ 57 ลำ รถยนต์ 50 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 301 ราย

ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและตรวจสอบข้อมูล/เอกสารให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการ/มาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน และได้เตรียมจัดพื้นที่ให้เกษตรกรได้นำสินค้าเกษตรมาขายที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ภายหลังให้มีการปลูกพืชทดแทนหลังน้ำลด

นอกจากนี้ ได้เตรียมปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง (ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง) และเตรียมให้การสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ให้สามารถทำการผลิตได้ตามแผนการบริหารจัดการน้ำฯ ซึ่งจะมีการบูรณาการร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ด้วย