เฉลิมชัย จ่ออัดงบ 1.8 พันล้าน ซื้อเรือประมง ออกนอกระบบ 1,007 ลำ

เรือประมง

ชาวประมงมีเฮ ข่าวดีต้อนรับปีใหม่ “เฉลิมชัย” เตรียมเสนอ ครม. เห็นชอบโครงการนำเรือออกนอกระบบ 1,007 ลำ วงเงิน 1,806 ล้านบาท กำหนดเสร็จภายในปี 2566 เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน

วันที่ 30 ธันวาคม 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย เปิดเผยว่า

“โครงการนำเรือออกนอกระบบ” เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลให้เกิดความยั่งยืน และเป็นการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ภายใต้พระราชกำหนดการประมง 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบตามแผนบริหารจัดการประมงทะเลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบไว้ตั้งแต่ 3 พ.ย. 2558
 

โดยโครงการนำเรือออกนอกระบบ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินโครงการในระยะที่ 1 และ 2 มีเรือที่นำออกนอกระบบและรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาไปเรียบร้อยแล้ว จำนวน 364 ลำ ซึ่งชาวประมงมีความพึงพอใจที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือการประกอบอาชีพ ด้วยการซื้อเรือคืนเพื่อนำเรือออกนอกระบบ

แต่ยังมีกลุ่มเรือประมงอีกจำนวนมากที่ประสงค์จะนำเรือออกนอกระบบ และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลไทย ปี 2563 – 2565 ในการบริหารจัดการกองเรือให้มีความสมดุลกับทรัพยากรประมงทะเลและเกิดความยั่งยืนในการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ และเพิ่มความคล่องตัวในการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ลดปัญหาความขัดแย้ง ในการทำการประมง บรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาหนี้สินของชาวประมงได้ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ชาวประมงได้มีโอกาสประกอบอาชีพอื่น ๆ

ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงจึงได้ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย ให้ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินการบริหารโครงการนำเรือออกนอกระบบให้เร็วขึ้น ด้วยการใช้วงเงินของธกส.ซื้อคืนเรือให้แล้วเสร็จภายในปี 2566

โดยรัฐบาลชำระคืนธกส.ตามจำนวนและระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควร กรมประมงจึงดำเนินหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จนได้ข้อยุติด้วยการใช้แหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. เพื่อให้สามารถนำเรือประมงออกนอกระบบได้ทั้งหมดในคราวเดียวกัน ด้วยวิธีการซื้อเรือคืน

สำหรับกลุ่มเรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่ประสงค์จะเลิกอาชีพทำประมงเพิ่มเติม ทั้งนี้ มีเรือประมง จำนวน 1,007 ลำ ที่ผ่านการตรวจสอบประวัติและมีคุณสมบัติครบถ้วน จากคณะทำงานตรวจสอบประวัติความถูกต้อง คุณสมบัติเรือประมงและเจ้าของเรือ และได้รับการประเมินราคาชดเชยจากคณะทำงานประเมินราคาเรือประมง โดยมีวงเงิน จำนวน 1,806,334,900 บาท

ซึ่งขณะนี้ผ่านการเสนอที่ต่อประชุมคณะทำงานกลั่นกรองการเยียวยา และดำเนินการตามมาตรการลดจำนวนเรือประมงเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565ที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้เสนอต่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

“ตามแผนบริหารจัดการประมงทะเลที่ ครม. เห็นชอบไว้ตั้งแต่ 3 พ.ย. 2558 ในโครงการนำเรือออกนอกระบบ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินโครงการในระยะที่ 1 และ 2 มีเรือที่นำออกนอกระบบและรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาไปเรียบร้อยแล้ว จำนวน 364 ลำ หากยังดำเนินการตามวิธีการเดิมจะต้องใช้เวลานับ 10 ปี จึงให้มีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการโครงการนำเรือออกนอกระบบด้วยวิธีใหม่จะใช้เวลาเพียงไม่เกิน 3 – 6 เดือนจะบรรลุเป้าหมายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ

ต้องขอขอบคุณกรมประมง ธ.ก.ส. และคณะทำงานกลั่นกรองการเยียวยาและดำเนินการตามมาตรการลดจำนวนเรือประมง เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนที่ดำเนินการจนผ่านขั้นตอนสำคัญ ๆ และกรมประมงพร้อมนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา ก่อนนำเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบต่อไป ถือเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับชาวประมงที่รอคอยมาตั้งแต่ปี 2558 ” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด