กินเจปี 2566 เงินสะพัด 44,558 ล้าน หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวโต

ศูนย์พยากรณ์ฯ เผยผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจปี 2566 กลับมาคึกคัก จากประชาชนมั่นใจเศรษฐกิจฟื้นตัว การเติบโตด้านท่องเที่ยว มาตรการรัฐ ส่งผลค่าใช้จ่ายปีนี้สูง 4,587 บาท สูงในรอบ 16 ปี คาดเงินสะพัด 44,558 ล้านบาท

วันที่ 6 ตุลาคม 2566 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์ฯ สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ คาดว่าปีนี้คึกคัก เพราะบรรยากาศของการกลับมากินเจและเศรษฐกิจฟื้นก็มีผลต่อการใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นปี 2566 นี้ อยู่ที่ 4,587 บาท สูงสุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 2551 ทำให้คาดการณ์ว่าเงินจะสะพัดในช่วงกินเจ 44,558 ล้านบาท ขยายตัว 5.5% แต่ก็ยังไม่เท่าก่อนที่จะเกิดโควิด

“การกลับมาคึกคักในช่วงกินเจปีนี้ เพราะคนมองเศรษฐกิจดีขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จึงมีผลต่อการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงเทศกาล ซึ่งคาดว่าสูงขึ้น 30%”

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจและความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน สำรวจระหว่างวันที่ 27 กันยายน-3 ตุลาคม 2566 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,280 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าคนจะเริ่มกินเจตั้งแต่วันที่ 14-15 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มตัวอย่าง 39.4% กินเจ เพราะตั้งใจทำบุญ เพื่อสุขภาพ ลดการกินเนื้อสัตว์ และ 60.6% ไม่กินเจ เพราะอาหารแพง ไม่ตั้งใจจะกิน เศรษฐกิจไม่ดี

ส่วนพฤติกรรมการกินเจที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคต ส่วนใหญ่ 82.2% ที่เคยกินก็ยังกินต่อเนื่อง ส่วน 17.8% ไม่เคย ปีนี้อาจจะไม่กิน แต่บางกลุ่มก็บอกว่าจะลองกินในปีนี้ และการกินเจปีนี้ก็พบว่า 61.4% จะกินตลอดเทศกาล จะมีเพียง 38.6% ที่จะกินเป็นบางมื้อ ช่องทางที่จะเลือกซื้อส่วนใหญ่ 88.8% ไปซื้อด้วยตัวเอง และ 11.2% ไม่ได้ไปซื้อด้วยตัวเอง โดยซื้อผ่านดีลิเวอรี่ ออนไลน์

นอกจากนี้ วัตถุดิบและคาดว่าราคาอาหารเจปี 2566 นี้ คนส่วนใหญ่คิดว่า 57.1% แพงขึ้น มีเพียง 0.7% ราคาลดลง และ 42.2% ที่คิดว่าเท่าเดิม การไปทำบุญเฉลี่ยต่อคนปีนี้ 1,504 บาทต่อคน และมูลค่าการเดินทางไปทำบุญเฉลี่ย 3,589 บาทต่อคน ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลอยู่ที่ 4,587 บาท ทำให้คาดการณ์ว่าเงินจะสะพัดในช่วงกินเจ 44,558 ล้านบาท ขยายตัว 5.5%

สำหรับพรที่จะขอในช่วงเทศกาลกินเจสำหรับตัวเองและประเทศ คนที่ตอบสำรวจ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชินีในรัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอให้ตนเองและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากภัยไข้เจ็บ ขอให้มีโชค ร่ำรวยเงินทอง หมดหนี้หมดสิน

ขณะที่ผลสำรวจทัศนะของผู้ประกอบการในช่วงกินเจ สำรวจวันที่ 27 กันยายน-3 ตุลาคม 2566 จำนวนตัวอย่าง 650 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า 49% มีร้านอาหารถุงที่ขายอาหารเจ ส่วนอาหารเจก็จะกระจายไปในส่วนของร้านขายผัก ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต เครื่องสำหรับไหว้เจ้า รูปแบบที่ชำระเงิน 72% ใช้เงินสด 25.8% ใช้วิธีการโอน มีแค่ 1% ใช้บัตรเครดิต

รูปแบบที่ซื้อของลูกค้า 80.8% ใช้บริการดีลิเวอรี่ มีเพียง 19.2% ไปซื้อเอง และผู้ประกอบการส่วนใหญ่คิดว่าการใช้จ่ายช่วงกินเจจะเพิ่มขึ้น 30.7% เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น มาตรการกระตุ้นของภาครัฐ และ 25% คิดว่าใช้จ่ายลดลง เพราะลดค่าใช้จ่าย เศรษฐกิจแย่ มีหนี้สินเพิ่ม ส่วนจำนวนชิ้นที่ซื้อ 49% ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา 30.3% เพิ่มขึ้น และ 20.75 ลดลง ขณะที่ราคาสินค้าช่วงกินเจ 72% คิดว่าแพงขึ้นมีเพียง 1.7% คิดว่าถูกลง